Total War: THREE KINGDOMS

Total War: THREE KINGDOMS

69 ratings
ไกด์มือใหม่เพื่อมือใหม่ Total war three kingdoms
By Setto
5
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
Intro
ขอต้อนรับสู่ ไกด์มือใหม่เพื่อมือใหม่ Total war three kingdoms คู่มือพื้นฐานสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่พึ่งเข้ามาเล่น Total war ข้อมูลส่วนใหญ่เขียนจากประสบการณ์ในการเล่นของผมซะส่วนใหญ่หากข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยมาเป็นอย่างสูงครับ

*ปรับปรุงเนื้อหา 1
-ในส่วนที่(ปรับปรุงเนื้อหา)คือการแก้ไขข้อมูลใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ผู้เล่นใหม่อ่านเข้าใจง่ายมากขึ้น
-เพิ่มภาษาอังกฤษมากขึ้นหลังจากใช้ภาษาไทยไปเยอะมากๆซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นใหม่สับสนได้
-เพิ่มและปรับปรุงรูปภาพมากขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายมากขึ้นเนื่องจากการบอกแค่ชื่อ UI อาจจะยังทำให้ผู้ใหม่สับสนหรือหา UI นั้นๆไม่เจอ
-ย่อเนื้อหาใหม่ให้อ่านง่ายกระชับเน้นภาษาเขียนมากยิ่งขึ้น

*ปรับปรุงเนื้อหา 2
-ปัจจุบันเนื้อหาทั้งหมดได้รับการอัพเดทแล้วจึงนำ "(ปรับปรุงเนื้อหา)" ออกจากสารบัญทั้งหมด
อินเตอร์เฟสหน้าหลัก
หลังจากเข้าเกมผู้เล่นจะพบกับอินเตอร์เฟสดังนี้



1.Campaing = โหมดเนื้อเรื่องหลัก
1.1.Countiue = เล่นต่อจากเซฟเก่า
1.2.New = เริ่มเล่นใหม่
1.3.Load = เลือกเล่นต่อจากเซฟเก่า
1.4.Multiplayer = เล่นแบบหลายคน co-op campaing
2.Battle = โหมดการต่อสูแบบผู้เล่นจัดเอง
2.1.New = จะเข้าโหมดการต่อสู้




2.1.1 Custom battle = โหมดการต่อสู้แบบผู้เล่นจัดทำกันเอง ไว้ฝึกซ้อมกับaiหรือทดสอบยูนิต
2.1.2 Historical battle = โหมดการต่อสู้ตามประวัติศาสตร์ มีดังนี้
2.1.3 Rank battle = โหมดการต่อสู้แบบจัดอันดับ
2.2.Multiplayer = โหมดออนไลน์จัดทัพต่อสู้กันเอง
2.3.Dynasty mode = โหมดให้ผู้เล่นจัดทีมสู้กับทหารนับหมื่น เป็นโหมดเอาไว้ทดสอบการ์ดจอและ cpu โดยเฉพาะ
2.4.Replay = โหมดให้ผู้เอาไว้ดูฉากการต่อสู้ต่างๆที่ผู้เล่นเลือกเซฟเอาไว้
3.Extra = อื่นๆ
3.1.Options = การตั้งค่าภายในเกม
3.2.Credits = รวมผู้สร้างเกม
3.3.Dlc = เนื้อหาเสริมภายในเกม
3.4.Quit = ออก
อินเตอร์เฟส Campaing 1
เมื่อกดไปที่ new จะเข้าสู่หน้าต่างการเริ่มเกมแบ่งเป็นดังนี้
1.ปีที่เริ่ม campaing ตัวอย่างในภาพเป็นปี 190 เป็นช่วง campaign หลังตั๋งโต๊ะพึ่งครองอำนาจ
2.ตัวละครที่เลือกได้ในปีนั้นๆ
recomanded characters = ตัวละครที่เกมแนะนำเหมาะสำหรับมือใหม่
3.ปีที่เลือกเล่นได้แบ่งเป็น 5 ช่วงเวลา
-ปี 182 ฝ่ายผ้าเหลืองเริ่มก่อกบฏ เล่าปี่ โจโฉ ซุนเกี๋ยนและตัวละครแต่ละตัวพึ่งเริ่มสร้างตัว เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่าย ฮั่น กับ โจรผ้าเหลือง
-ปี 190 ตั๋งโต๊ะครองอำนาจ เล่าปี่ โจโฉ ซุนเกี๋ยนและตัวละครอื่นๆเริ่มตั้งตัวมีเมืองเป็นของตัวเองกันแล้ว ฝ่ายผ้าเหลืองที่อยู่ในปีนี้จะเป็นซากทัพแล้ว
-ปี 194 แผ่นดินปั่นป่วนขุนศึกเริ่มขยายอำนาจ เข้าสู่ยุคสงครามโจโฉขยายดินแดนทางภาคกลาง อ้วนเสี้ยวขยายดินแดนทางภาคเหนือ เล่าปี่รับเมืองจากโตเกี๋ยม ซุนเกี๋ยนตายจากการลอบโจมตีทำให้ซุนเซ็กตอนมาเป็นผู็นำตระกูลแทน ที่ลิโป้ออกมาตั้งฝ่ายเป็นของตนเอง เป็นต้น
-ปี 200 ราชสำนักอยู่ในกำมือโจโฉ อ้วนเสี้ยวยึดดินแดนทางเหนือ ศึกกัวต๋อระหว่างโจโฉและอ้วนเสี้ยวเป็นต้น
-ปี 291 หลังจากแผ่นดินถูกรวบรวมโดยราชวงศ์จิ้นได้ไม่นานเหล่าอ๋องทั้ง 8 เริ่มตั้งตัวเป็นใหญ่ทำให้สงครามเริ่มขึ้นอีกครั้ง
4.ชื่อฝ่ายสไตร์การเล่นของฝ่ายนั้นๆความยากของฝ่าย
5.ความสามารถของฝ่าย อย่างที่ผมยกมาคือโจโฉกับความสามารถ Credibility ที่ใช้ปั่นหัวและยุแยงให้ศัตรูตีกันเอง
6.ยูนิต,สิ่งก่อสร้าง,และฮีโร่ประจำฝ่ายอย่างโจโฉจะมีทหารม้าสุดแกร่งอย่างหน่วยอาชาเสือดาวและยังมีแฮหัวตุ้นและแฮหัวเอี๋ยนเป็นขุนศึกเริ่มต้น



7.opitons = การตั้งค่าแบบปลีกย่อยต่างๆ
7.1.Campaing difficulty level = ปรับความยากในโหมด campaing ยิ่งความยากสูงจะทำการทูตยากขึ้นศัตรูไม่ชอบหน้าเรามากขึ้น
7.2.Battle realisem mode = โหมดสมจริงถ้าเปิดโหมดนี้ตัวเกมจะจำกัดมุมมองของเราตามมุมองของทหารและปิดแผนที่ เหมาะสำหรับคนสาย hard core ชอบเล่นสมจริง
7.3.Battle time limit = เป็นการตั้งค่าเวลาในการรบโดยปรกติตัวเกมจะจำกัดเวลไว้เช่นฝ่ายบุกต้องตีเมืองภายใน 40 นาที หากตีไม่สำเร็จตามเวลาที่กำหนดฝ่ายบุกจะต้องแพ้ไปแม้ว่าฝ่ายป้องกันจะเหลือทหารหยิบมือก็ตาม สำหรับมือใหม่ 40 นาทีกำลังดีครับไม่เยอะและไม่น้อยเกินไป
7.4.auto save cloud = save เกมของเราไว้ที่ cloud ส่วนตัวไม่เคยใช้ครับ
7.5.Timeless character = หากเปิดโหมดนี้ตัวละครของเราจะเปลี่ยนจากอายุเปินเทรินแทนช่วยให้ขุนพลแก่ๆอยู่ได้ยาวนานขึ้น หากปิดโหมดนี้ตัวละครของเราจะใช้ระบบอายุหากตัวละครอายุมากระดับนึงจะตายทันทีทำให้ช่วงหลังๆจะมีแต่ขุนพลหน้าใหม่ๆที่มาสร้างชื่อแทนขุนพลที่ตายไป
7.6.Time of day = การปรับปรุงเวลาใน campaing โดยปรกติตัวเกมจะ run เวลาไปเรื่อยตั้งแต่เช้าถึงค่ำในการตั้งค่าโหมดนี้จะช่วบล็อคเวลาใน campaing อย่างในถายที่ผมตั้งค่าไว้ตอนเช้าเพื่อไม่ให้มีกลางวันกับเย็นและกลางคืนเพรารำคาญแสงที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้นเอง แต่แล้วแต่คนชอบครับ
7.7.Show ai player move = โหมดนี้ถ้าเปิดจะเป็นการแสดงการเดินของ ai ทุกตัวในระว่างจบตาครับ หากปิดไว้ตัวเกมจะ time skip การเดินของ ai ทั้งหมดช่วยประหยัดเวลาในการจบแต่ละตาครับ
7.8.Advisor help = จะเป็นการเปิดให้ผู้ช่วยของเราทางมุมซ้ายบนของเราครับ โดยเขาจะทำการแนะนำระบบการเล่นต่างๆภายในเกม แต่หากผู้เล่นรำคาญสามารถกดปิดได้ดังภาพครับ
7.9.Battle difficulty level = ปรับความยากของการต่อสู้ยิ่งความยากสูงจพทำ ai แข็งแกร่งขึ้นตายยากขึ้นในการรบ
8.โหมดที่ใช้ในการเล่น = โดยจแบ่งเป็นสองโหมดคือ
-Records ที่จะเป็นโหมดคราสสิกของ total war ระบบจะเหมือนภาคประวัติศาสตร์ทั่วไป
-Romance โหมดแฟนตาซีแม่ทัพแต่ละคนจะเก่งดุจเทพลงมาจุดติสามารถสู้หนึ่งต่อร้อยได้สบายๆ และมีสกิลสุดแฟนตาซีให้กดใช้งาน
9.แผนที่ อย่างในภาพที่โจโฉมีจุดเกิดอยู่แถวๆภาคกลาง โดยสีแดงในแผนที่จะหมายถึงศัตรู


อินเตอร์เฟส Campaing 2
-เมื่อเข้าสู้ตัวเกมจะเข้าสู่ phase turn base เช่น การสร้างเมือง, เดินตัวละคร, วางแผนการฑูต ฯลฯ



-รายละเอียดค่าต่างๆของฝ่ายเรา


1.Turn = จำนวนตาที่เราเล่น


2.Treasury = เงินคลังหรือเงินเก็บทั้งหมดของเราเมื่อนำเมาส์ไปชี้จะแสดง Incom(รายได้) Expenditure(รายจ่าย)ของผู้เล่นที่จะได้รับในตาต่อๆไป
-รายรับ = Taxation(ภาษี), Trade(การค้าขาย), Family Estates(จากครอบครัว*เป็นรายได้ที่ไม่สามารถเพิ่มหรือลดได้)
-รายจ่าย = Army upkeep(รายจ่ายกองทัพ), Salary(รายจ่ายแม่ทัพ), Building Upkeep(รายจ่ายสิ่งก่อสร้าง), Undercover characters(รายจ่ายค่าสายลับ)


3.Food(เสบียง) = เสบียงเป็นค่าประเภทหนึ่งที่ใช้ในการอัพเกรดเมืองโดยยิ่งเมืองมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็จะกินเสบียงมากขึ้น โดยเสบียงที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกเก็บเอาไว้ซึ่งสามารถนำไปใช้ทีหลังได้ หากเสบียงหมดจะทำให้ประชาชนไม่มีความสุขและก่อกบฏ
-Effects from total = บัพจากฝ่ายของเรา
-Production(การผลิตต่อตา) = Farming(เสบียงที่มาจาการทำฟาร์มสิ่งก่อสร้างสีเขียว), Fishing(เสบียงจาการตกปลาสิ่งก่อสร้างสีฟ้าและเขียว), Characters(การผลิตเสบียงจากการส่งตัวละครไปพัฒนาพื้นที่)
-Consumption(จำนวนเสบียงที่ใชต่อตา) = Food distribution(ผลรวมเสบียงที่ใช้ในแต่ละเมือง), Food markets(เสบียงที่ใช้ในสิ่งก่อสร้าง), Diplomacy(เสบียงที่ใช้ในการฑูต เช่น การส่งเสบียงไปให้ฝ่ายอื่นๆ)


4.Resources(วัตถุดิบหรือทรัพยากร) = ทรัพยากรจะเป็นค่าประเภทหนึ่งซึ่งจะช่วยเพิ่ม Trade influence(อิทธิพลทางการค้า) ทำให้เราได้รายได้จากการค้ามากขึ้น โดย Resources จะอยู่ตามเมืองลูกต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้ในการอัพเกรดสิ่งก่อสร้างอีกด้วย
5.บัพและดีบัพประจำฝ่ายโดยจะได้รับจาก events ต่างๆภายในเกม

-รายละเอียดประจำฝ่าย



1.Court(สภา) = คือระบบบริหารประจำฝ่ายโดยการนำตัวละครต่างๆในฝ่ายเราไปนั่งในสภา(ดูแบบละเอียดได้ที่หน้าสภา)เพื่อรับบัพประจำตำแหน่งนั้นๆโดยตำแหน่งจะเพิ่มขึ้นตาม Prestige(ยศและลำดับ)ของเรา(ดูแบบละเอียดได้ที่หน้ายศ/ลำดับขั้น)
1.2 = ผู้นำฝ่ายเมื่อนำเมาส์ไปคลิ๊กจะสามารถไปดูสรุปต่างๆของฝ่ายเราได้
1.3 = ระบบประจำฝ่าย

2.Displomancy(การฑูต) = คือระบบทำความสัมพันธ์กับฝ่ายอื่นๆ เช่น การค้า, การประกาศสงคราม, การเป็นพันธมิตร, การซื้อขายเมือง(ดูแบบละเอียดได้ที่หน้าการฑูต)


3.Reforms(การวิจัย) = คือระบบปลดล็อคเทคโนโลยีใหม่ๆให้กับฝ่ายเราเช่น ยูนิต, สิ่งก่อสร้าง, บัพต่างๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 5 ธาตุ ดังนี้
-ธาตไฟหรือสีแดง วิจัยด้านกองทัพลด upkeep ทหาร, เพิ่มเสบียงระหว่างเดินทัพ, การเพิ่มสิ่งกีดขวางในสนามรบ, วิจัยปลดล็อคทหารม้าหอกขั้นสูง
-ธาตุน้ำหรือสีฟ้า วิจัยด้านการค้า, ค่า exp(ประสบการณ์)ของตัวละคร, เพิ่มจำนวนการค้า, วิจัยสายลับ, วิจัยปลดล็อคพลธนูขั้นสูง
-ธาตุไม้หรือสีเขียว วิจัยด้านการทำฟาร์ม, วิจัยปลดล็อคพลหอกขั้นสูง, การเพิ่มจำนวนประชากร
-ธาตุเหล็กหรือสีเทา วิจัยการเงินด้านอุสาหกรรม, ลดราคาสิ่งก่อสร้าง, วิจัยปลดล็อคพลดาบขั้นสูง
-ธาตุดินหรือสีเหลืองหรือสีทอง วิจัยด้านความสุขประชาชน, เพิ่มรายได้จากประชาชน(ภาษี),วิจัยปลดล็อคยูนิตทหารม้าโล่ขั้นสูง

4.Spy(สายลับ) = คือระบบใหม่ที่มาแทนระบบเอเจ้นโดยเป็นการส่งตัวละครของฝ่ายเราไปอยู่กับฝ่ายอื่นและคอยส่งข่าวสารต่างๆมาให้กับเรา เช่น จำนวนตัวละคร,จำนวนกองทหาร นอกจากนี้สายลับยังสามารถก่อวินาศกรรม เช่น การวางยาพิษใส่กองทัพหรือการเปิดประเมือง

5.Record(บันทึก) = คือระบบการดูย้อนหลัง events ต่างๆหรือการกระทำต่างๆที่เกิดขึ้นภายในเกมนี้

6.Treasury (เงินคลัง) = คือระบบสรุปรายรับ-รายจ่ายที่ละเอียดมากขึ้นโดยจะแสดงทั้งหมดว่าเราทำการค้ากับฝ่ายใดหรือจ่ายเงินเดือนให้กับตัวละครไหนบ้าง(ตรงนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากรู้รายละเอียดยิบย่อยต่างๆของรายได้ฝ่ายเราโดยส่วนตัว Treasury ที่กล่าวไปแล้วด้านบนก็บอกละเอียดดีอยู่แล้วผมเลยไม่ได้เจาะลึกนะครับ

7.Factions concil(ระบบสภาขุนนาง) = คือระบบที่ตัวละครที่มีตำแหน่งสภาระดับสูงยื่นคำร้องให้กับเราโดยจะยื่นทุกๆ 1 ปี ผู้เล่นสามารถเลือกคำร้อง(โดยเป็นการจ่ายเงินซึ่งสามารถเลือกได้หลายอันถ้ามีงบพอ) ซึ่งคำร้องต่างๆจะมีทั้งบัพเศรษฐกิจให้กับฝ่ายเรา, ทำการค้ากับฝ่ายอื่น, ตัดเสบียงศัตรูที่บุกมาหาฝ่ายเรา ,ได้รับอาวุธหรือส่งโจรสลัดไปรุกรานฝ่ายอื่น


8.Imperial Intrigue(ระบบหุ่นเชิดฮ่องเต้) = ก่อนหน้านี้การไปชิงตัวพระเจ้าเหี้ยนเต้มีแค่ได้รับเพียงบัพเล็กน้อยๆแต่ต้องแลกมากับการถูกฝ่ายอื่นๆเกลียดฝ่ายเรามากขึ้นและพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็พร้อมหนีจากเราไปทุกเมื่อ แต่ปัจจุบันระบบนี้ได้ถูกอัปเกรดใหม่จะทำงานเมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้อายุพร้อมขึ้นครองราชย์ โดยจะแสดงค่าความพึงพอใจของพระเจ้าเหี้ยนเต้ต่อฝ่ายต่างๆยิ่งสูงผู้เล่นก็จะได้รับบัพมากขึ้นหากต่ำลงจะถูกฝ่ายฮั่นอื่นๆเกลียดเราแทน หากพระเจ้าเหี้ยนเต้อยู่กับฝ่ายเราเราจะสามารถเพิ่มหรือลดค่าความพึงพอใจและประกาศให้ฝ่ายไหนเป็นศัตรูกับฝ่ายฮั่นก็ได้(แต่ค่าความพึงพอใจต้องต่ำมากๆ) นอกจากนี้ผู้เล่นยังมีทางเลือกใหม่นอกจากการที่ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้เรายังสามารถเลือกที่จะกอบกู้ฟื้นฟู่ราชวงศ์ฮั่นใหม่อีกครั้งได้อีกด้วย แต่ผู้เล่นจำเป็นต้องไปช่วยเหลือพระเจ้าเหี้ยนเต้ก่อนที่ฝ่ายที่แข็งแกร่งที่สุด 3 ฝ่ายจะตั้งตัวเป็น 3 ก๊ก

-รายละเอียดอื่นๆ


1.ภารกิจหลักของฝ่ายเราหากทำสำเร็จจะได้รับรางวัลต่างๆ

2.ตัวละครในฝ่ายเรา นอกจากนี้ยังแสดงถึงค่าความพอใจต่อผู้เล่นและสามารถแก้ไขรายละเอียดต่างๆผ่านเมนูนี้ เช่น อัพเกรดสกิลหรือเปลี่ยนอาวุธ

3.กองทัพทั้งหมดในฝ่ายเรา นอกจากนี่ยังแสดงถึงค่าเสบียงของกองทัพและ upkeep ที่ผู้เล่นต้องเสียในแต่ละตา

4.แสดงเมืองที่เราครอบครองอยู่ นอกจากนี้ยังแสดงถึงรายได้ เสบียงที่ได้หรือเสียในแต่ละเมือง ความสุขของประชาชนและจำนวนประชากรอีกด้วย

5.แสดงฝ่ายอื่นๆที่เรารู้จักความสัมพันธ์ต่อฝ่ายเราและการฑูต
6.จบตา
7.มินิแมพ


อินเตอร์เฟส Campaing 3
-รายละเอียดกองทัพการจ้างแม่ทัพ, การสร้างทหาร, ขยายกองทัพ




1.Recruit = การจ้างยูนิตหรือแม่ทัพมาเข้ากับกองทัพของเรา นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถจ้างแม่ทัพใหม่ได้อีกวิธีคือการจ้างจากหน้าต่างสภา(Candicate)

2.แสดงฝ่ายที่กองทัพสังกัดและแสดงถึงจำนวน upkeep(รายจ่ายกองทัพหรือค่าบำรุงรักษา) ที่กองทัพนี้ต้องจ่ายต่อหนึ่งตาและจำนวนกองทหารทั้งหมดในกองทัพนี้


3.-Military Supplies(เสบียงในกองทัพ) = เสบียงจะลดลงเมื่อกองทัพของผู้เล่นเขาไปในเขตแดนของฝ่ายอื่นๆหากเสบียงหมดจะทำให้ขวัญกำลังใจและทหารหนีจากกองทัพเรา การเติม Military Supplies จะต้องอยู่ในเขตแดนของตนเองหรือพันธมิตรของเรา นอกจากนี้เรายังสามารถวิจัยเพิ่มขีดจำกัดของ Military Supplies ได้จาก Reforms
-Stance(ค่าการเดิน) = ขีดจำกัดในการเดินของผู้เล่น

4.บัพและดีบัพของกองทัพนี้


5.ในภาค Three kingdoms จำนวนยูนิตในกองทัพจะแบ่งเป็นแม่ทัพ 3 คนและกองทหารอีก 18 กองโดยแม่ทัพจะมียูนิตได้สูงสุด 6 กอง


เมื่อคลิ๊กไปที่แม่ทัพผู้เล่นสามารถเลือกไออค่อนด้านบน 5 อย่างคือ
-Move select retinue out side of the force = การแยกแม่ทัพออกมาจากกองทัพเป็นกองทัพใหม่
-Recall the selected retinue = การเรียกแม่ทัพกลับ โดยแม่ทัพจะกลับไปอยู่หน้า Recruit อีกครั้ง
-Swap selected retinue = การเปลี่ยนแม่ทัพกับแม่ทัพตัวอื่นอของเรา
-Open characters details = รายละเอียดของตัวละครนี้(สามารถดูได้ที่คราสและแม่ทัพ)
-Commanding General การตั้งให้ตัวละครเป็นผู้บัญชาการกองทัพนี้ โดยในภาค Three kingdoms แม่ทัพทุกคนจะมีบัพเมื่อเป็น commander ของกองทัพที่ไม่เหมือนกันจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นว่าจะให้ใครนำทัพ


6.รายละเอียดยูนิต


-การสร้างยูนิตใหม่ยูนิตให้กด Recruit หรือรูป + โดยการสร้างยูนิตจะขึ้นอยู่กับธาตุของแม่ทัพ เช่น แม่ทัพหรือตัวละครธาตุไฟสามารถสร้างได้แค่ยูนิตม้าเกราะหนักไม่่สามารถสร้างพลหน้าไม้เกราะหนักเหมือนกุนซือหรือตัวละครธาตุน้ำได้ การปลดล็อคยูนิตส่วนใหญ่จะไม่ต้องใช้สิ่งก่อสร้างแต่ต้องใช้เลเวลของแม่ทัพหรือการวิจัยแทน
-Swap units = สลับเปลี่ยนยูนิต
-Disband units = ยุบยูนิต
-Rename units = เปลี่ยนชื่อยูนิต

ในภาคสามก๊กเมื่อผู้เล่นสร้างยูนิตจะได้ยูนิตมาใช้ทันทีและไม่เสียเทิร์นในการสร้างแต่ยูนิตจะได้แค่ครึ่งกองและต้องรอฟื้นฟูระยะนึง หากผู้เล่นนำกองทัพที่พึ่งสร้างยูนิตเดินออกมาจะทำให้ Mustering rate(การระดมพล)(บัพการยูนิตฟื้นฟูยูนิต)หายไปโดยผู้เล่นสามารถเพิ่มการฟื้นฟูยูนิตได้จากการวิจัย สภาหรือสกิลของแม่ทัพ

1.1. ก่อนเดินทัพ 1.2.หลังเดินทัพ



7.Stance(ประเภทการเดิน) = แต้มในการเดินทัพของทัพนี้ โดยการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทัพโดยจะมีบัพและดีบัพต่างกันออกไปดังนี้และต้องใช้แต้ม army action point ในการเปลี่ยน stance หากแต้มไม่พอจะไม่สามารถเปลี่ยน stance ได้
-Stance:Normal = การเดินปรกติ กองทัพสามารถโจมตีได้ ระยะการเดินปรกติ กองทัพสามารถฟื้นฟูยูนิตได้(ต้องอยู่ในพื้นที่ของตนเอง)
-Stand:March = การเดินแบบรวดเร็ว กองทัพไม่สามารถโจมตีได้ ระยะการเดินไกลขึ้น 50% กองทัพไม่สามารถฟื้นฟูยูนิตได้และมีดีบัพ Tried(เหนื่อย) = ทำให้ยูนิตอ่อนแอลง
-Stand:Encamp = การตั้งค่ายเมื่อถูกโจมตีจะมีกำแพงและป้อมของค่ายมามาช่วยป้องกันผู้เล่น กองทัพไม่สามารถโจมตีได้ กองทัพไม่สามารถเดินได้ เพิ่มจำนวนเสบียงและการฟื้นฟูทหาร(ต้องอยู่ในพื้นที่ของตนเอง)
-Stand:Ambush = การซุ่มโจมตีทำงานเมื่อศัตรูเข้ามาในระยะของเรา กองทัพของเราจะล้อมศัตรูและลดขวัญกำลังใจศัตรู กองทัพไม่สามารถโจมตีได้ กองทัพไม่สามารถเดินได้ เพิ่มการฟื้นฟูทหาร(ต้องอยู่ในพื้นที่ของตนเอง) ศัตรูมองไม่เห็นกองทัพของเรา
-Stand:Raid =ความสามารถปล้นเฉพาะฝ่ายโจร ทำการปล้นเสบียงและเงินรอบๆพื้นที่ ลดระยะการเดินของกองทัพและติดสถาณะเหนื่อย ลดค่าความพึงพอใจและเสบียงที่เก็บไว้ในพื้นที่ที่ปล้น
-Stand:Spoile = แจกจ่ายเสบียงเฉพาะฝ่ายโจร ทำการแจกจ่ายเสบียงกองทัพของเราที่ปล้นมา ลดจำนวนเสบียงในกองทัพ เพิ่มเสบียงและการผลิตเสบียงในพื้นที่ที่แจกจ่ายเสบียง ฟื้นฟูกองทัพ กองทัพไม่สามารถโจมตีได้ (ต้องอยู่ในพื้นที่ของตนเอง)
การสร้างเมืองและบริหาร


เมืองถือได้ว่าเป็นทั้งฐานที่มั่นและการผลิตทรัพยากรของเรา การเสียเมืองไปในแต่ละครั้งจึงทำให้ฝ่ายเราอ่อนแอลงเรื่อยๆ ผู้เล่นจึงต้องวางแผนในการอัปเกรดเมืองต่างๆให้ดีเพราะทรัพยากรในเกมก็มีจำกัดในช่วงแรกๆ
เมืองจะถูกแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ เมืองหลัก เมืองรองหรือเมืองลูก และด่าน


1.Assignments = ระบบนี้คือการส่งตัวละครของเราไปพัฒนาพื่นที่ต่างๆของผูเล่นหรือส่งไปป่วนฝ่ายศัตรูตามเวลาที่กำหนดเมื่อส่งไปแล้วตัวละครตัวนั้นจะไม่สามารถออกรบได้ โดยสกิลในการบริหารจะขึ้นอยู่กับธาตุของตัวละครนั้นๆการส่งตัวละครที่ธาตุตรงกับเมืองไปบริหารจะได้โบนัสด้วย นอกจากนี้สกิลที่ใช้พัฒนาพื้นที่ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้จากสกิลที่เราอัพไปจากตัวละครนั้นๆ การส่งตัวละครไป assignments จะได้รับ exp ด้วยจึงแนะนำให้ส่งตัวละครที่ไม่ได้นำไปออกรบไป assignments
-สีแดง ลดจำนวนประชากร
-สีเขียว เพิ่มเสบียง เพิ่มจำนวนประชากร
-สีฟ้า เพิ่มรายได้จากการค้าขาย ตรวจจับสายลับ
-สีทอง เพิ่มรายได้จากประชาชน เพิ่มความสุขในเมือง ลดค่าคอลับชั่น
-สีเทา เพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรม ลดเวลาการสร้างสิ่งก่อสร้าง ลดค่าคอลับชั่น
*นอกจากนี้ยังมี assignments เฉพาะฝ่าย เช่น ฝ่ายโลติดสามารถส่งตัวละครไปสอนหนังสือเพื่อเพิ่ม exp ให้ตัวละครของเราได้หรือเตียวก็กที่ส่งตัวละครไปหาแม่ทัพใหม่ๆมาเข้ากองทัพ
1.1.Building browser = แผนผังการอัปเกรดเมืองของเรา
1.2. = การย้ายเมืองหลวง
1.3. = แต่งตั้งตัวละครเป็นเจ้าเมืองไปเฝ้าเมืองนั้นๆ โดยเมืองจะได้รับบัพพิเศษจากเจ้าเมืองที่มาเฝ้าและเมื่อเจ้าเมืองไม่ได้ออกรบจะทำการเฝ้าเมืองพร้อมยูนิตที่อยู่ในหน่วยตอนเป็นแม่ทัพและยูนิตจะไม่เสีย upkeep

2.= ชื่อเมืองนั้นๆ


3.รายละเอียดในเมืองนั้น
3.1.Tax exemption = เมื่อกดติ้กไปจะเป็นการไม่เก็บภาษีในเมืองนั้นๆช่วยให้เมือมีค่าความสงบเพิ่มขึ้น
3.2.Income = รายได้ประจำเมืองนั้นๆโดยรายได้จะมาจากสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในเมืองโดยแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ Peasantry(รายได้จากประชาชน) Commerce(รายได้จากการค้า) Industry(รายได้จากอุตสาหกรรม)
3.3.Food = อาหารหรือเสบียงโดยปรกติเมืองแต่ละเมืองจะผลิตอาหารออกมาโดยส่วนใหญ่เสบียงจะถูกผลิตจากสิ่งก่อสร้างสีฟ้าและเขียว จำนวนเสบียงที่ผลิตได้จะถูกหักลบกับจำนวนบริโภคของประชากรและจึงค่อยนำไปเก็บในเมือง เช่น เมือง a ผลิตเสบียง 20 เมือง a กินไป 10 ที่เหลืออีก 10 ก็จะถูกเก็บเข้ากองกลาง หากเมืองไหนเสบียงติดลบนั้นหมายถึงเมืองนั้นไม่สามารถผลิตเสบียงได้และต้องการบริโภคมากขึ้นโดยเราสามารถเช็คจำนวนเสบียงทั้งหมดของเราได้จาก Food ทางซ้ายบนเมื่อนำเมาส์ไปชี้จะมีการบอกจำนวนเสบียงที่ผลิตได้และบริโภคไปเท่าไหร่ หากเสบียงไม่เพียงพอต่อการบริโภคจะทำให้เมืองเกิดความไม่สงบประชาชนจะหนีออกจากเมืองหรือเกิดกบฏตรงเมืองนั้นๆ
3.4.Public order = ค่าความสงบของเมืองหากค่านี้เป็นบวกจะทำให้เมืองนั้นๆได้รับบัพจากรายได้เพิ่มขึ้นหรือการเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งค่านี้สามารถลดลงได้จากหลายๆปัจจัย เช่น จำนวนประชากรที่มากเกินไป มีกบฏเกิดใกล้ๆเมือง เสบียงหมด หากค่านี้ติดลบมากๆจะทำให้เกิดกบฏในเมืองนั้นๆ
3.5.Reservers = จำนวนเสบียงที่เมืองนั้นเก็บเอาไว้ เมื่อเสบียงทั้งฝ่ายหมดหรือเมืองถูกล้อมจะนำเสบียงตรงนี้มาใช้แทนหากเสบียงหมดลงไปเรื่อยๆจะทำให้ทหารที่เฝ้าเมืองนั้นๆไม่มีอาหารกินและเริ่มตายลงไปเรื่อยๆ
3.6.Population = จำนวนการเติบโตของประชากรยิ่งจำนวนประชากรสูงเท่าไหร่เมืองนั้นจะได้รับโบนัสต่างๆมากขึ้น เช่น สร้างสิ่งก่อสร้างเร็วขึ้น รายได้เยอะขึ้น เสบียงเพิ่มขึ้น เป็นต้น อย่างไรก้ตามยิ่งประชาชนเยอะขึ้นจะทำให้เมืองแออัดทำให้ค่าความสุขในเมืองลดลงแทน
3.7. = รายละเอียดเฉพาะเมืองนั้นๆ เช่น Fertility(ความอุดมสมบูรณ์) ยิ่งมีเยอะจะทำให้ผลิตอาหารได้มากขึ้น ความสงบประจำเมือง ค่า faction support(ค่าสนับสนุนฝ่ายหากค่านี้ต่ำจะทำให้ความสุขในเมืองลดลง) เช่น เมืองทางภาคเหนือที่มีความแห้งแล้งมากกว่าเมืองในภาคกลางทำให้ผลิตอาหารและเก็บภาษีได้น้อยกว่าเมืองในภาคกลาง
3.8. = ทหารที่เฝ้าเมืองนั้นๆ
4.= คำแนะในการสร้างสิ่งก่อสร้างในเมืองให้เราดูจากเมืองลูกของเราเป็นหลักครับเพื่อให้สิ่งก่อสร้างในเมืองได้บัพกันอย่างเต็มที่ เช่น ถ้าเมืองลูกของเราเป็นสีเขียวให้สร้างสิ่งก่อสร้างของเราเป็นสีเขียวทั้งหมดเพื่อดึงประสิทธิภาพของบัพเมืองนั้นๆให้สูงที่สุด แล้วจึวค่อยสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆเสริมขึ้นมาโดยสิ่งก่อสร้างแบ่งเป็นดังนี้
สีเขียว = สิ่งก่อสร้างประเภทเพิ่มเสบียงต่างๆช่วยเพิ่มทั้งรายได้ การเติบโตของประชากร ค่าความสงบและเสบียงประจำเมืองนั้นๆ
สีแดง = สิ่งก่อสร้างประเภททหารช่วยเพิ่มการจ้างทหารในเมืองนั้นๆถูกลง เพิ่มการฟื้นฟูทหาร สร้างอาวุธ เพิ่มทหารที่เฝ้าเมืองนั้นๆ
สีฟ้า = สิ่งก่อสร้างประเภทช่วยเพิ่มรายได้ต่างๆ exp ตัวละคร และเสบียงในเมืองนั้นๆ
สีทอง = สิ่งก่อสร้างประเภทเพิ่มความสงบช่วยเพิ่มความสงบในเมือง เพิ่มรายได้ประจำเมืองนั้นๆ
สีเทา = สิ่งก่อสร้างประเภทเพิ่มรายได้ช่วยเพิ่มรายได้ต่างๆภายในเมืองและลดค่าคอลับชั่นในเมืองนั้นๆ
*อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นครับว่าจะตัดสินใจสร้างสิ่งก่อสร้างอะไรอย่างบางเมืองเมืองลูกสีแดงเพิ่มรายได้ทางอุตสาหกรรมเราอาจจะสร้างสิ่งก่อสร้างสีเทาเพื่อบัพรายได้จากอุตสาหกรรมก็ได้เหมือนกัน
5.= เมืองลูกหรือเมืองรองประจำจังหวัดนั้นๆ โดยมันมีหน้าที่ในการบัพเมืองหลักของเราทั้งการค้า เสบียง อาวุธและทรัพากรพิเศษอื่นๆ
6.=เมื่อนำเมาส์ไปคลิ้กขวาที่เมืองจะเข้าสู่หน้าแผนผังอัปเกรดเมืองโดยจะแสดงรายละเอียดการสร้างเมืองต่างๆ



-เมืองหลัก อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นว่าเมืองมีหน้าที่ผลิตทรัพยากรต่างๆให้กับเราซึ่งนั้นคือหน้าที่ของ
เมืองหลักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่สามารถอัปเกรดเพื่อขยายเมืองทำให้เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆได้มากขึ้นรวมถึงตัวเมืองจะแข็งแกร่งขึ้นและมีทหารประจำเมืองที่เก่งขึ้น แต่ยิ่งเมืองมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่มันจะกินเสบียงมากขึ้นเท่านั้นอิงจากความเป็นจริงถ้าเมืองใหญ่ขึ้นประชาชนที่มากขึ้นก็ต้องการอาหารมากขึ้น แต่ก็ได้รับรายได้จากเมืองและโบนัษต่างๆจากเมืองมากขึ้นตามขนาดเมืองที่ใหญ่ขึ้น



-เมืองรองหรือเมืองลูก หน้าที่จะเหมือนเมืองหลักที่คอยผลิตทรัพยากรให้เราแต่จะต่างตรงที่เมืองลูกไม่สามารถขยายเมืองได้ทำได้แค่อัปเกรดไปเรื่อยๆ ยิ่งอัปเกรดสูงเท่าไหร่บางเมืองเราจะต้องจ่ายค่าดูแลให้เมืองลูกเยอะขึ้น หากเราทำการยึดเมืองหลักและเมืองลูกในจังหวัดนั้นๆครับเมืองลูกจะมอบโบนัสให้กับเมืองหลัก เช่น เพิ่มรายได้ เพิ่มเสบียงเป็นต้น อย่างไรก็ตามเมืองลูกสามารถยึดแยกออกจากเมืองหลักได้ซึ่งจะทำให้เราสูญเสียบัพพิเศษประจำจังหวัดนั้นๆไปด้วย



-ด่านจะไม่ต่างจากเมืองรองตรงที่มันอัปเกรดได้อย่างเดียวไม่สามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมได้ ยิ่งอัปเกรดด่านมากเท่าไหร่จะเสียค่าใช้จ่ายค่าดูแลให้ด่านเพิ่มขึ้น ด่านจะมีหน้าที่ป้องกันจุดต่างๆไม่ต่างจากเมือง แต่จะโจมตีได้ยากกว่าและต้องใช้เวลาในการตียากว่าเพราะสามารถบุกได้ทางเดียว ด่านจะมีทั้งทหารและจำนวนป้อมที่คอยป้องกันด่านและยังมีเสบียงที่เก็บไว้ตอนล้อมเมืองเยอะทำให้การจะตีด่านในแต่ละครั้งต้องใช้ทหารจำนวนมาก นอกจากนี้ฝ่ายล้อมบุกด่านจะโดนดีบัพเสียเสบียงมากขึ้น
ยศ/ลำดับขั้น

ระบบยศเป็นระบบต่ำแหน่งขั้นของเราโดยตำแหน่งยิ่งสูงขึ้นบัพก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ยิ่งเรายศสูงเท่าไหร่เราจะทำการทูตกับฝ่ายอื่นๆยากขึ้นและเมื่อเราเลื่อนยศถึงระดับ Emperor ตัวเกมจะบังคับให้อีกสองที่มีอนาเขตและอำนาจเยอะที่สุดฝ่ายขึ้นเป็น Emperor เหมือนกันและต้องสู้กันจนกว่า Emperor จะเหลือแค่เราฝ่ายเดียว
โดยการวิธีการเลื่อนยศจะมาจาค่า Prestige(ยศศักดิ์หรือชื่อเสียง)ซึ่งมาจากการยึดเมืองต่างๆหรือมาจากบัพทางสิ่งก่อสร้างเป็นต้น
1.ข้อมูลของบัพพิเศษและยูนิตฝ่ายเราฝ่ายเรา

2.ยศต่างๆ ยิ่งยศสูงเท่าไหร่จะได้รับบัพพิเศษและระบบต่างๆเพิ่มขึ้น
2.1. Noble(ขุนนาง) = เพิ่มค่ายศศักดิ์จากการยึดเมือง อัพเกรดเมืองและสิ่งก่อสร้างพิเศษ
2.2 .Second marquis(มาร์ควิสขั้นสอง) = สามารถตั้ง Coalition alliance(สัมพันธมิตร)ได้ สามารถเพิ่มหรือลดการเก็บภาษีได้
*Coalition alliance เป็นการก่อตั้งพันธมิตรแบบใหม่โดยสิ่งที่ต่างจาก Military Alliance คือเมื่อจะประกาศสงครามหรือชวนฝ่ายอื่นๆมาเป็นพันธมิตร จะมีการโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็็นด้วยในกลุ่มสมาชิกพันธมิตร เช่น เมื่อฝ่าย A ประกาศสงครามกับฝ่าย B ก็จะขึ้นอยู่กับสมาชิกในกลุ่มวจะโหวตเห็นด้วยหรือไม่ที่จะประกาศสงคราม ซึ่งถ้าเป็น Military Alliance หากกลุ่มพันธมิตรประกาศสงครามสมาชิกอื่นๆจะเข้าร่วมได้ทันที
2.3. Marquis(มาร์ควิส) = สามารถตั้ง Military Alliance (พันธมิตรทางการทหาร)ได้ สามารถสร้าง vassal(เมืองขึ้น)ได้
2.4. Duke(ดยุค) = satisfaction(ค่าความพึงพอใจ) +10 เพิ่มตำแหน่งสายลับ 2 ตำแหน่ง
2.5. King(อ๋อง) = เมื่อถึงยศอ๋องจะสามารถตั้งตัวเป็นจักรพรรดิได้ (ฝ่าย Governor หรือ Empire(เล่าฉง เล่าเปียว เล่าเอี๋ยน ม้าเท้ง ซือเซี่ย)ไม่สามารถตั้งตัวเป็นจักรพรรดิได้ต้องไปยึดเมืองของจักรพรรดิฝ่ายอื่นๆแทน ) satisfaction(ค่าความพึงพอใจ) +15
2.6. Emperor(จักรพรรดิ) = สามารถจ้างยูนิต Palace guard units ได้ ฝ่ายที่ขึ้นเป็นจักรพรรดิเหมือนกันไม่สามารถเป็นพันธมิตรกันได้

3.ข้อมูลต่างๆของฝ่ายเรา เช่น จำนวนเงิน เสบียง มีศัตรูฝ่ายใดบ้าง


ปรกติเมื่อเรายศเลื่อนขึั้นตัวเกมจะเพิ่มโบนัสต่างๆเช่นค้าขายมากขึ้น สร้างกองทัพได้เยอะขึ้น แต่ตอนนี้เราสามารถเลืออัพเกรดสิ่งต่างๆเองได้แล้ว แบ่งเป็นดังนี้
-Assignment = เพิ่มจำนวนขุนนางไปบริหารพิ้นที่
-Administrators = เพิ่มจำนวนเจ้าเมือง
-Trad argeements = เพิ่มเส้นทางการค้าขาย
-Spies = เพิ่มจำนวนสายลับให้ใช้งานมากขึ้น
-Armies = เพิ่มจำนวนกองทัพ
สภา


ระบบสภาหรือตำแหน่งจะมีหน้าที่ในการบัพฝ่ายของเรายึ่งผู้เล่นยศสูงเท่าไหร่ตำแหน่งใหม่ๆจะปลดล็อคออกมามากขึ้น เราจะได้อะไรบ้างเมื่อแต่งตั้งตัวละครเข้าสภาอย่างแรกคือบัพพิเศษต่างๆในตำแหน่งเมื่อเรานำตัวละครไปใส่ฝ่ายของเราจึงจะได้บัพตามตำแหน่งนั้นๆซึ่งจะส่งผลทั้งฝ่ายและตัวละครที่มานั่งในตำแหน่ง สองบัพของตัวละครเมื่อนั่งสภาระดับสูงทุกๆตัวละครจะมีสกิลสำหรับนั่งในสภา แต่สกิลพวกนี้จะทำงานเมื่อตัวละครพวกนี้เข้าไปนั่งในสภาระดับสูงเท่านั้นหากแต่งตั้งตำแหน่งอื่นๆบัพจะไม่ทำงาน อย่างไรก็ตามผู้เล่นต้องสังเกตให้ดีว่าสกิลของตัวะครจะทำงานในตำแหน่งระดับใด สุดท้ายคือยิ่งตัวละครเลเวลสูงเท่าไหร่พวกเขาจะมีความทะเยอทะยานมากขึ้นและจะขอตำแหน่งสูงๆในสภาเพื่อให้พวกเขาพอใจ ในส่วนตรงนี้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะมอบตำแหน่งหรือไม่เพราะตัวละครบางตัวเมื่อพวกเขาขึ้นตำแหน่งสูงๆก็มีโอกาศที่พวกเขาจะทำสงครามภายในกันเองผู้เล่นต้องคอยสังเกตให้ดีว่าตัวละครแต่ละคนมีความชอบหรือเกลียดตัวละครใดบ้าง*อย่างในภาพสภาผมแทบจะเกลียดกันทุกคนแต่พวกเขามีค่าความพอใจที่สูงจึงไม่มีสงครามภายใน* ถ้าเรานำตัวละครไปใส่ในสภาตัวละครตัวนั้นจะมีเงินเดือน(upkeep)ที่สูงขึ้นด้วย




ผมขอแบ่งตำแหน่งสภาเป็นสามหมวดครับ
1.ตำแหน่งระดับสูง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นตำแหน่งพวกนี้นอกจากจะมีบัพให้กับฝ่ายแล้วสกิลพิเศษที่ต้องนั่งในสภาจะทำงาน แนะนำให้ตั้งพวกตัวละครที่มีเลเวล 6-9 ขึ้นมานั่งตำแหน่งเพราะพวกเขามีค่าทะเยอทะยานมากและถ้าผู้เล่นบริหารไม่ดีแล้วพวกเขามีค่าความพอใจต่ำพวกเขาก็จะหนีไปทันที เช่น ลิโป้ ที่ทีค่าความทะเยอทะยานสูงมากๆพอรับเข้าฝ่ายมาต้องให้นั่งในตำแหน่งดีๆ
2.ตำแหน่งระดับกลาง เป็นตำแหน่งธรรมดาเมื่องตัวละครมานั่งจะได้รับบัพทั้งฝ่าย ตำแหน่งพวกนี้จะปลดล็อคเมื่อเราเป็นฮ่องเต้ตำแหน่งพวกนี้สกิลพิเศษของตัวละครจะไม่ทำงาน แนะนำให้ใส่ตัวละครเลเวล 5-7 มานั่งเพื่อให้พวกเขามีความพึงพอใจและไม่หนีออกจากฝ่ายเรา
3.ตำแหน่งเจ้าเมือง เป็นตำแหน่งที่ปลดล็อคตั้งแต่เริ่มเกมโดยการส่งตัวละครไปเป็นเจ้าเมืองจะทำให้เมืองนั้นๆได้รับบัพพิเศษจากสกิลของตัวละคร เช่น ก่อสร้างเร็วขึ้น ลดคอรัปชั่น นอกจากนี้เมื่อตัวละครที่เป็นเจ้าเมืองไม่ได้ออกไปสู้รบตัวละครจะทำการนำทหารไปเฝ้าเมืองอีกด้วย อย่างไรก็การที่ตัวละครที่เราส่งไป assignment ในพื้นที่เจ้าเมืองปกครองอยู่ตามจะมีโอกาศที่ทั้งสองตัวละครจะไม่ชอบหน้ากัน

Family tree

หน้านี้จะแสดงถึงสมาชิกครอบครัวของเราและฝ่ายอื่นๆ

Characters

แสดงถึงความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆในเกม
สายลับ
-หากผู้เล่นคุ้นเคยกันระบบ Agent ของ total war แบบเก่าที่เน้นส่งตัวละครพิเศษไปทำเรื่องต่างๆอาจจะต้องปรับตัวใหม่กับระบบ agent ที่เปลี่ยนเป็นระบบ spy แทน แม้ว่าระบบจะดูเปลี่ยนแปลงไปเยอะแต่หลักๆก็ยังเป็นการส่งตัวละครไปป่วนฝ่ายอื่นๆเหมือนเดิมครับ
-สายลับคือระบบใหม่ในภาค three kingdoms โดยจะเป็นการส่งตัวละครอื่นๆไปแฝงตัวในฝ่ายต่างๆคอยสืบข้อมูลและปั่นหัวฝ่ายที่เราส่งเข้าไป ยิ่งสายลับเลเวลสูงเท่าไหร่ก็มีโอกาศถูกจ้างเข้าฝ่ายนั้นๆมากขึ้น โดยสายลับจะคอยส่งข้อมูลต่างๆทั้งตัวละครที่อยู่ฝ่ายนั้นๆ รายได้ต่างๆ บัพดีบัพ จำนวนเมืองที่ครอบครอง ฯลฯ





รายละเอียดระบบสายลับ
1.แสดงสายลับทั้งหมดที่เราส่งไปในฝ่ายต่างๆและผู้เล่นสามารถจ้างสายลับได้จากตรงนี้โดยทำการกดที่เครื่องหมาย + จะเป็นการเลือกสายลับและฝ่ายที่จะส่งไป วิธีการปลดล็อคช่องสายลับเพิ่มสามารถทำได้โดยอัพจากการวิจัยสายสีฟ้าและการเลื่อนยศของฝ่ายผู้เล่น
*สำหรับผู้เล่นที่อยากลองระบบสายลับแนะนำฝ่ายโจโฉครับเพราะจะเริ่มมาพร้อมกับสายลับสองช่องตั้งแต่เริ่มเกมและยังมีสกิลบัพสายลับต่างๆทำให้เล่นสายลับง่ายขึ้น

2.แสดงตัวละครที่ผู้เล่นสามารถส่งไปเป็นสายลับได้โดยแบ่งออกเป็น 3 แบบคือ

2.1.ตัวละครที่อยู่ในฝ่ายเราเมื่อกดส่งไปเป็นสายลับจะต้องรอตัวละครเดินทางไปฝ่ายที่เราส่งไป โดยจะแจ้งเตือนเมื่อสายลับของผู้เล่นเดินทางไปถึง( อย่างไรก็ตามมีโอกาศที่สายลับจะไม่ถูกอีกฝ่ายจ้างสายลับจะกลับมาหาเราเอง ซึ่งจะมาจากสายลับที่ส่งไปนั้นมีความสามารถต่ำจนฝ่ายที่เราส่งไปจึงไม่จ้างสายลับเข้าฝ่ายนั่นเองดังนั้นเราควรส่งตัวละครที่มีเลเวลสูงๆหรือตัวละคร legendary จะมีโอกาศถูกจ้างและได้ตำแหน่งสูงขึ้น)
2.2.ตัวละครที่ไม่ได้อยู่ในฝ่ายจะเหมือนกับการจ้างแม่ทัพแต่เปลี่ยนเป็นจ้างสายลับแทนเงื่อนไขเหมือนกับ 2.1
2.3.ตัวละครที่อยู่ในฝ่ายนั้นยอมเป็นสายลับให้กับฝ่ายเราทันทีจะไม่ต้องเดินทางเพราะตัวละครอยู่ในฝ่ายนั้นอยู่แล้ว

เมื่อตัวละครที่ส่งไปถูกไปได้รับการว่าจ้างจะขึ้นหน้าต่างดังนี้

การที่ผู้เล่นจะใช้งานสายลับในการปั่นป่วนฝ่ายตรงข้ามจำเป็นต้องใช้ค่าสองอย่าง คือ

ค่า 1.Undercover network (ค่าเครือข่ายลับ(รูปถือพัด) และ 2.Cover(ค่าหลบซ่อน(รูปตา) ซึ่งทั้งสองค่าจะถูกใช้ในการวินาศกรรมต่างๆของสายลับยิ่งมีค่าพวกนี้สูงก็จะมีโอกาศถูกจับตัวได้น้อยลงและทำงานสำเร็จมากขึ้นโดยค่า -Undercover network จะใช้งานร่วมกันกับสายลับในฝ่ายนั้นๆ เช่น ผู้เล่นส่งตัวละคร A และ B ไปสืบข้อมมูลฝ่ายโจโฉ เมื่อผู้เล่นสั่งให้สายลับ A ทำงานค่า Undercover network ของ A และ B ก็จะลดลงแม้ว่าเราจะไม่ได้สั่งการสายลับ B โดยยิ่งค่านี้มีเยอะเท่าไหร่ก็จะทำงานสำเร็จมากขึ้นและถูกจับตัวน้อยลง
-Cover จะเป็นค่าที่ใช้งานเหมือน Undercover network แต่ค่านี้จะแยกเป็นรายบุคคลโดยยิ่งมีค่า Cover สูงก็จะมีโอกาศถูกจับตัวได้น้อยลงและทำงานสำเร็จมากขึ้น หากค่านี้น้อยลงมากเกินไปจะทำให้ถูกจับตัวง่ายขึ้นแทนและทำงานสำเร็จน้อยลง โดยทั้งสองค่าจะฟื้นฟูเพิ่มขึ้นทุกๆตา
*คำแนะนำการใช้สายลับทำงานต่างๆล้วนมีความเสี่ยงและมีโอกาศถูกอีกฝ่ายสงสัยทำให้ผู้เล่นต้องใช้ Undercover network และ Cover เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในบางครั้งเราควรจะรอจนทั้งสองแต้มสูงมากพอเพื่อที่จะทำให้สายลับปลอดภัยยิ่งขึ้น


หมวดหมู่การสั่งสายลับ

1.หมวดหมู่ขุนนาง = จะทำงานเมื่อสายลับถูกจ้างเข้าฝ่าย
-Maintain Loyalty = สั่งให้สายลับยังคงภักดีต่อเรา เนืื่องจากในบางครั้งฝ่ายตรงข้ามอาจจะเลี้ยงสายลับของเราดีเกินไปทำให้สายลับเปลี่ยนฝ่าย
-Empower trade = สั่งให้สายลับเพิ่มค่าการค้าขายให้กับฝ่ายเรา(กรณีที่อีกฝ่ายค้าขายกับฝ่ายเรา)ทำให้ฝ่ายเราได้เงินจากการค้าเพิ่มขึ้นและฝ่ายที่สายลับอยู่ได้รับเงินจากการค้าลดลง
-Interference = สั่งให้สายลับหลบซ่อนตัวลดการถูกจับได้เพิ่มค่า cover ให้สายลับ
-Extract spy = สั่งให้สายลับกลับฝ่ายของเรา
-Build undercover network = เพิ่มค่า undercover network ให้กับสายลับ
-Pursue military appointment = สั่งให้สายลับเรียกร้องให้ตัวเองได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพ
-Discredit faction = สั่งให้สายลับใส้ร้ายฝ่ายที่สายลับอยู่ ลดค่าความพึงพอใจของตัวละครทุกตัวในฝ่าย
-Discredit charter = สั่งให้สายลับใส่ร้ายตัวละครนั้นสายลับอยู่ ลดค่าความพึงพอใจของตัวละครที่ใส่ร้าย


2.หมวดหมู่เจ้าเมือง = จะทำงานเมื่อสายลับถูกจ้างเข้าฝ่ายและได้รับตำแหน่งเจ้าเมือง
-Pursue ministerial appointment = สั่งให้สายลับเรียกร้องให้ตัวเองได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางระดับสูง
-Surrender territory = สั่งให้สายลับยกเมืองที่สายลับเป็นเจ้าของยกเมืองให้กับฝ่ายเรา
-Open gates = สั่งให้สายลับเปิดประตูเมืองเมื่อเราเป็นฝ่ายบุกทำให้ตีเมืองง่ายขึ้น
-Deny garrison supplies = สั่งให้สายลับตัดเสบียงในเมืองลดการฟื้นฟูทหารในเมือง
-Poison garrison provisos = สั่งให้สายลับวางยาพิษสังหารทหารในเมือง
-Diminish public order = สั่งให้สายลับลดค่าความสุขประชาชนในเมืองที่สายลับเป็นเจ้าของ
-Instigate yellow turban uprising = สั่งให้สายลับปลุกระดมกบฏในเมืองที่สายลับเป็นเจ้าของ


3.หมวดหมู่แม่ทัพ = จะทำงานเมื่อสายลับถูกจ้างเข้าฝ่ายและได้รับตำแหน่งแม่ทัพ
-Pursue administrative appointment = สั่งให้สายลับเรียกร้องให้ตัวเองได้รับการแต่งตั้งเป็น
-Military revolt = สั่งให้สายลับก่อกบฏแยกตัวกองทัพออกมา
-Falsify marching orders = สั่งให้สายลับปลอมแปลงการเดินทัพปลอม ทำให้กองทัพติดดีบัพเหนื่อยและระยะการเดินสั้นลง
-Leak marching orders = สั่งให้สายลับปล่อยเส้นทางการเดินให้กับฝ่ายเรามีโอกาศซุ้มโจมตีอีกฝ่ายเพิ่มขึ้น
-Deny military supplies = สั่งให้สายลับตัดเสบียงในกองทัพลดการฟื้นฟูทหารในกองทัพ
-Poison military provisions = สั่งให้สายลับวางยาพิษสังหารทหารในกองทัพ
-Infiltrate army = สั่งให้สายลับบอกตำแหน่งการเดินทัพให้ฝ่ายเรารับรู้


4.หมวดหมู่ตระกูล = จะทำงานเมื่อสายลับถูกจ้างเข้าฝ่ายและได้เข้าไปอยู่ในตระกูลของฝ่ายนั้นๆ เช่น รับเป็นลูกบุญธรรม การแต่งงาน เป็นทายาท เป็นต้น
-Improve relation = สั่งให้สายลับยุยงฝ่ายตรงข้ามเพิ่มความสัมพันธ์กับฝ่ายเรา
-Instigate civil war = สั่งให้สายลับก่อสงครามภายในฝ่าย
-Assassinate faction leader = สั่งให้สายลับสังหารผู้นำฝ่าย
-Assassinate faction heir = สั่งให้สายลับสังหารรัชทายาท


เมื่อกดใช้คำสั่งสายลับจะมีโอกาศที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามสงสัยและต้องใช้แต้ม Undercover network และ Cover หากมีแต้ม Undercover network และ Cover น้อยเกินไปจะทำให้สายลับมีโอกาศถูกจับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้เล่นก็มีทางเลือกให้สายลับยุติการกระทำเพื่อความปลอกภัยได้เช่นกัน

วิธีการจับสายลับ

1.ให้สังเกตตัวละครที่มาเข้าฝ่ายของผู้เล่นทุกครั้งว่ามากจากฝ่ายใดจะช่วยลดการรับสายลับเข้าฝ่ายมากขึ้น เช่น มีตัวละครจากฝ่ายโจโฉมาให้เราจ้าง แต่ตอนนั้นเรากำลังรบกับโจโฉอยู่อาจจะระแวงไว้ก่อนว่าเป็นสายลับอย่างไรก็ตามตัวละครตัวนี้ก็อาจจะถูกไล่ออกจากฝ่ายโจโฉก็เป็นไปได้เหมือนกัน



2.สร้างสิ่งก่อสร้างหรือวิจัยธาตุน้ำที่ช่วยตรวจจับสายลับมากชึ้น ทำให้สายลับที่แฝงตัวในฝ่ายเราทำงานยากขึ้นและถูกจับตัวง่ายขึ้น

3.ส่งตัวละครธาตุน้ำไป assignment ในพื้นที่ต่างๆเพื่อตรวจจับสายลับ


เมื่อสายลับถูกจับได้จะมีทางเลือกให้กับผู้เล่นว่าจะปล่อยไป ประหาร จ้างมาเข้าฝ่ายของเราและจ้างสายกลับไปแฝงตัวฝ่ายที่ส่งมา

การทูต

ระบบการทูตเป็นระบบสำคัญในเกม Total war ช่วยเพิ่มมิติของเกมให้ลึกขึ้นไม่ใช้แค่สร้างกองทัพสู้กันอย่างเดียว ทำให้ผู้เล่นได้วางแผนมากขึ้น เช่น เราอาจจะยอมเป็นพันธมิตรกับฝ่าย A ชั่วคราวเพื่อช่วยกันสู้กับฝ่าย B ซึ่งหลังจากจบศึกเราอาจจะเลิกเป็นพันธมิตรหรือจับมือเป็นพันธมิตรกันต่อก็ได้ นอกจากนี้ยังมีทำการทูตอื่นๆ เช่น การค้าขายกับฝ่ายอื่นๆ การทำพันธมิตร การทำสัญญาข้ามดินแดน เป็นต้น


รายละเอียดต่างๆในหน้าการทูต
การทำการทูตสามารถทำได้สองหัวข้อคือ Negotiate และ Quick deal
-Negotiate คือการการทูตแบบเลือกเป้าหมายโดยผู้เล่นจะเป็นคนเลือกหัวข้อและเป้าหมายในการทำการทูตเอง
-Quick deal คือการทำการทูตแบบรวดเร็วโดยจะขึ้นมาเป็นหัวข้อต่างๆที่เราสามารถทำกับฝ่ายอื่นๆได้ในตอนนี้ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไล่ดูทีละฝ่าย


1.จะแสดงถึงฝ่ายทั้งของผู้เล่นและฝ่ายอื่นๆที่กำลังทำการทูตอยู่ในตอนนี้
1.1. Alliance = แสดงฝ่ายที่กำลังเป็นพันธมิตร
1.2. Alliance war = แสดงฝ่ายที่กำลังเป็นทำสงครามกับพันธมิตร
1.3. Vassal= แสดงฝ่ายที่เป็นเมืองขึ้น
1.4. Trade partners = แสดงฝ่ายที่กำลังทำการค้าขายกันอยู่
1.5. Declare war = แสดงฝ่ายที่กำลังประกาศสงครามกับฝ่ายเรา



2.ในหน้าต่างนี้จะแสดงฝ่ายที่ผู้เล่นต้องการทำการทูต นอกจากนี้หน้าต่างนี้ยังแสดงถึง Attitude(ความสัมพันธ์)กับผู้เล่นและข้อตกลทางการทูตที่เราทำไว้กับฝ่ายนั้นๆด้วยการกด Negotiate(ต่อรอง)ด้วย



Attitude แสดงความพึงพอใจต่อฝ่ายเรายิ่งค่านี้มีเยอะเท่าไหร่จะช่วยให้ผู้เล่นทำการทูตได้ง่ายขึ้น
+การเพิ่มความสัมพันธ์สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การส่งเงิน การเสบียง การส่งอาวุธ การแต่งงานระหว่างสองฝ่าย การใช้ความสามารถของสภาคุณนางเพิ่มความสัมพันธ์ การทำสนธิสัญญาต่างๆการค้า การทำสัญญาไม่รุกรานกัน การเป็นพันธมิตรเป็นต้น เป็นต้น
-การลดความสัมพันธ์ เช่น การทำสงครามกัน ฉีกสัญญาทางการทูตต่างๆ เช่น การค้า การไม่รุกรานกัน การเป็นพันธมิตร(ซึ่งจะต้องรออย่างน้อย 10 ตาถึงจะประกาศศึกใส่ฝ่ายนั้นๆได้หากประกาศศึกเลยจะทำให้ผู้เล่น -ติดลบทางการทูต) การเดินข้ามดินแดนโดยไม่ขออนุญาต การปล้นดินแดน(ฝ่ายโจร) การประหารตัวละครที่ฝ่ายนั้นๆมีความสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น


3.แสดงถึงสิ่งที่เราสามาถทำในการทูตได้แบ่งออกเป็นดังนี้
3.1.War = หมวดการประกาศสงคราม
3.2.Peace = หมวดการขอสงบศึก
3.3 Trade and Marriage = หมวดการค้าและการแต่งงาน
3.4.Vassals = หมวดเมืองขึ้น
3.5.Alliances = หมวดการทำพันธมิตร
3.6.Diplomatic Treaties = หมวดความสัมพันธ์ทางการทูต
3.7.War co-ordination = หมวดการช่วยทำสงคราม


-เมื่อผู้เล่นเสนอข้อตกลงต่างๆตัวเกมจะแสดงถึงโอกาศที่อีกฝั่งจะตอบรับข้อเสนอของเราในช่องนี้ให้เป็นเลขศูนย์(หรือถ้ามากว่า 1 ขึ้นไปจะช่วยเพิ่มค่าความสัมพันธ์) โดยการทูตผู้เล่นสามารถเสนอข้อต่อรองอื่นๆเพื่อให้การทูตประสบความสำเร็จมากขึ้นอย่าง การมอบเสบียง เงิน อาวุธ ดินแดน และอื่นๆให้กับฝ่ายที่ขาดแคลน
นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถกดที่ Make this work เพื่อแสดงเงื่อนไขที่อีกฝั่งจะยอมรับข้อเสนอของเราแบบแน่นอน(แต่บอทมักจะชอบต่อรองเวอร์ๆทำให้เราเสียเปรียบบ่อยๆ)
ส่วนปัจจัยอื่นๆก็จะเป็น ความพึงพอใจต่อผู้เล่น เช่น เป็นฝ่ายฮั่นเหมือนกันทำให้ทำการทูตง่ายขึ้น ฝ่ายเรามีกองทัพมากกว่าอีกฝ่าย มีอำนาจหรือยศมากว่าเป็นต้น
เมื่อกด Propose deal จะเป็นการตกลงทางการทูต

รายละเอียดอื่นๆ

แสดงระบบฝ่าย เงิน จำนวนเมืองที่ฝ่ายนั้นครอบครอง ความสัมพันธ์ต่อฝ่ายเรา

-แสดงถึงอุปนิสัยของอีกฝ่าย ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ ขี้ขลาด ภักดี มีเกียรติ ยอมเป็นเบื้ยล่าง ซึ่งสามารถใช้สิ่งเหล่านี้ในการตัดสินใจทำการทูตได้(แต่บางครั้งตัวเกมก็สุ่มนิสัยทางการทูตรจดูขัดแย้งกันเอง) อย่างในภาพ โจโฉเป็นพวกจอมบงการ (Opportunistic manipulator)ซึ่งก็มีนิสัยย่อยๆเพิ่มเติมคือ
Paranoid(หวาดระแวง) = ไม่ชอบทำการทูตกับฝ่ายที่มีความน่าเชื่อถือต่ำและเห็นฝ่ายที่มีอณาเขตมากว่าตนเองเป็นศัตรู
Cunning(เจ้าเล่ห์) = ชอบฉีกสัญญาเมื่อมิตรเสียเปรียบและหักหลังเพื่อมีอำนาจมากกว่า พร้อมเอาเปรียบทางด้านอณาเขตเสมอเมื่อมีโอกาศ
Diplomat(นักการทูต) = ชอบสันติและหลีกเลี่ยงสงคราม
Manipulator(จอมบงการ) = ชอบบงการความสัมพันธ์ของฝ่ายต่างๆ(ระบบฝ่ายของโจโฉ)


-แสดงถึงอำนาจของฝ่ายหรือภัยคุกคามอย่างในภาพ โจโฉมีอำนาจเป็นอันดับสองของเซฟนี้และมีอำนาจเท่ากับฝ่ายผม ซึ่งอาจจะทำให้การเจรจายากขึ้น


Faction group = แสดงถึงกลุ่มพันธมิตรของฝ่ายนั้นๆ ช่วยให้ผู้เล่นรู้ว่าฝ่ายไหนเป็นพันธมิตรหรือเมืองขึ้นกับฝ่ายไหนบ้าง

ตัวอย่างการทำการทูต


เช่น ในภาพแม้ว่าผมจะยื่นสัญญาสงบศึกให้กับฝ่ายโจโฉที่มีอำนาจน้อยกว่าฝ่ายผม แต่ฝ่ายโจโฉก็ยังเป็นฝ่ายที่มีอำนาจมากเป็นอันดับต้นๆของทุกฝ่ายอยู่ดีทำให้ฝ่ายโจโฉไม่ยอมทำแน่นอนผมจึงยื่นข้อเสนอต่างๆโดยจะให้เสบียง อาวุธและเงินจำนวนนึงซึ่งมันก็มากพอที่จะทำให้โจโฉยอมรับข้อเสนอและผมยังยื่นข้อเสนอค้าขายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามเหล่าพันธมิตรของผมก็ไม่ชอบที่จะสงบศึกกับฝ่ายโจโฉตอนนี้และหากทำพวกเขาจะเกลียดฝ่ายของผมมากขึ้นเป็นต้น ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะวางแผนและรับมือกับสถาการณ์ในตอนนั้นอย่างไร


-Quick deal
จะเป็นการทำการทูตอย่างรวดเร็วโดยจะแตกต่างจากทำการทูตแบบปรกติ เมื่อกดที่หน้า quick deal จะแสดงหัวข้อการทูตที่ผู้เล่นสามารถทำได้ทันที เช่น ถ้าต้องการค้าขายกับฝ่ายอื่นๆเมื่อกดหัวข้อ trade จะเป็นการแสดงฝ่ายที่สามารถทำการค้ากับเราได้ในทัน ช่วยไม่ให้เราต้องเสียเวลากดดูทุกฝ่ายว่าพร้อมค้าขายกับเราหรือเปล่า

อินเตอร์เฟสตัวละคร


เมื่อเรานำเมาส์ไปคลิ้กขวาที่ตัวละครจะนำไปสู่หน้าต่างอินเตอร์เฟสของตัวละครนั้้นๆซึ่งจะแสดงทั้งอาวุธ นิสัย ความสามารถของตัวละคร โดยแบ่งเป็นดังนี้
1.Weapons(อาวุธที่ตัวละครสวมใส่) = ทุกตัวละครจะมีอาวุธที่สวมใส่ได้ไม่เหมือนกันและแต่ละอาวุธก็จะมีบัพที่แตกต่างกันออกไปจึงควรใส่ให้เหมาะกับตัวละครนั้นๆ โดยจะมีความสามารถในการเพิ่มพลังโจมตี พลังชาจ การหลบหลีกให้ตัวละครที่สวมใส่
2.Armour(เกราะของตัวละคร) = ทุกตัวละครจะมีเกราะที่สวมใส่ไม่เหมือนกันซึ่งจะแตกต่างจากอาุธตรงที่ชุดเกราะระดับตำนานส่วนใหญ่จะเป็นของตัวละครนั้นๆไม่สามารถถอดได้ ซึ่งต่างจากอาวุธระดับตำนานที่สามารถถอดเปลี่ยนได้
3.Mounts(สัตว์ขี่) = ทุกตัวละครจะมีสัตว์ขี่สวมใส่อยู่โดยแบ่งเป็นสองประเภทคือม้าและช้าง ม้าจะมีบัพของตัวเองไม่ต่างกับเกราะและอาวุธจึงควรใส่ให้เหมาะกับตัวละครนั้นๆ ช้างก็เช่นกันแต่มันจะเพิ่มพลังชีวิตให้ผู้สวมใส่แทนหากขี่ช้างจะไม่สามารถใช้สกิลของตัวละครนั้นๆได้ แต่จะมีสกิลของช้างมาให้แทน
4.Followers(ผู้ติดตามหรือผู้ช่วย) = ทุกตัวละครจะมีผู้ช่วยสวมใส่อยู่ผู้ติดตามจะให้บัพไม่ต่างกับเกราะและอาวุธ แต่จะมีบัพพิเศษอย่างเช่นการปลดล็อคค่ายกลต่างๆหรือบัพพิเศษเมื่อตัวละครนั่งในสภา จึงต้องใส่ให้เหมาะกับตัวละครนั้นๆ
5.Accessorise(อุปกรณ์เสริม) = ทุกตัวละครจะสวมใส่อุปกรณ์เสริมโดยจะมีบัพเป็นของตัวเองไม่ต่างกับสิ่งสวมใส่อันอื่นๆ แต่มันจะมีบัพพิเศษต่างๆ เช่น เพิ่มการฟื้นฟูกองทัพ เพิ่มรายได้เมื่อตัวละครนั่งในสภา ซึ่งอุปกรณ์เสริมจะรวมไปถึงธนูและหน้าไม้ด้วยซึ่งจะแยกมาจากอาวุธ ธนูจะดาเมจกลางๆแต่วิ่งไปยิงไปได้(อยู่บนหลัง
ม้า)หน้าไม้ดาเมจรุนแรงแต่ต้องหยุดยืนยิง
*ไอเทมทุกชิ้นในเกมจะมีเซทของมันอยู่หากใส่ครบเซทจะได้รับบัพพิเศษต่างๆ
6.Skills(สกิลของตัวละคร) = การอัพสกิลจะช่วยปลดล็อค status ให้กับแม่ทัพมากขึ้นและมีสกิลให้ใช้งานในการรบและในสภาเพิ่มมากขึ้นโดยสกิลจะแบ่งออกเป็นสามแบบ 1.สกิลที่ใช้ตำแหน่งสภาเพื่อใช้บัพเมืองหรือฝ่าย 2.สกิลที่ทำงานเมื่ออยู่ในกองทัพ เช่น บัพทหาร เพิ่มกระสุน เป็นต้น และ 3.สกิลที่ใช้ในสนามรบโดยจะแบ่งเป็นสองแบบคือสกิลที่พิเศษเฉพาะตัวละครสามสกิลซึ่งจะทำงานแบบ Active ต้องกดใช้งานและมี cool down เช่น สกิลสร้างความเสียเป็นวงกว้างของธาตุไฟหรือไม้ หรือ Passive ที่ต้องรอเวลาหรือเงื่อนไขในสนามรบก็ได้ เช่น สกิลเพิ่มคูลดาว์ต่างๆหรือบัพตามชัยภูมิต่างๆ
7.Military(การจ้างทหารของตัวละคร) = ประเภทยูนิตที่แม่ทัพสามารถสร้างได้โดยจะขึ้นอยู่กับฝ่ายและธาตุของแม่ทัพ
8.Relations(ความสัมพันธ์ของตัวละคร) = ทุกตัวละครจะมีความสัมพันธ์กันอยู่ถ้าความสัมพันธ์ดีตัวละครทั้งสองตัวจะมีบัพพิเศษให้กันและกัน แต่ถ้าตัวละครผิดใจกันไม่ว่าจะนิสัยหรือเหตุใดก็ตามตัวละครสองตัวนั้นจะไม่มีบัพให้กันและกัน นอกจากนี้ความสัมพันธ์พวกนี้จะแสดงถึงตัวละครนอกฝ่ายๆตัวอื่นๆด้วย(ดูได้จากเครื่องหมายติ๊กถูกและผิด)หากตัวละครมีความสัมพันธ์ที่ดีเราจะสามารถจับพวกเขาเข้าฝ่ายง่ายขึ้นหรือทำการทูตง่ายขึ้น หากความสัมพันธ์ไม่ดีไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเราก็แทบจะไม่มีวันจับพวกเขาได้หรือทำการทูตไม่ได้เลย
9.Traits(นิสัย) = นิสัยของทุกตัวละครจะมีสามอันตั้งแต่เริ่มเกมซึ่งมันจะเป็นบัพและดีบัพให้ตัวละครของเรา เมื่อระยะเวลาในเกมผ่ายไปนิสัยของตัวละครจะเพิ่มขึ่นๆเรื่อย(อย่างในภาพที่อ้วนเสี้ยวของผมมีนิสัยไป 6 อันแล้ว)โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มจากอีเว้นต่างๆให้เราเลือกหรือจากการรบต่างๆ ซึ่งเราสามารถใช้นิสัยในการตัดสินใจเลือกตัวละครเข้าฝ่ายเราอีกด้วยครับถ้าตัวละครนิสัยแย่ เช่น เป็นพวกคอรับชั่น บ้าอำนาจ ให้มองข้ามไปดีกว่า
10.คราสหรือธาตุ = ในภาคนี้จะเพิ่มระบบธาตุเข้ามาซึ่งอย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นว่าธาตุหรือคราสของตัวละครจะเป็นตัวแบ่งหน้าที่และยูนิตของตัวละครตัวนั้นๆ หากใช้ยูนิตตรงกับธาตุจะได้รับบัพพิเศษ เช่น พลหอกสีเขียวกับแม่ทัพสีเขียว เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อนำเมาส์ไปชี้จะแสดงถึงบัพต่างๆเมื่อตัวละครไปนั่งในสภาหรือเป็นผู้นำฝ่ายอีกด้วย
11.status/ธาตุ ของตัวละคร = ถึงแม้ว่าธาตุหลักของตัวละครจะเป็นธาตุดินแต่ทุกตัวละครก็สามารถใช้ความสามารถธาตุทั้ง 5 ได้เช่นกันโดยค่าเหล่านี้จะเพิ่มจากการอัพสกิลและการใส่ไอเทมที่เพิ่มธาตุนั้นๆโดยแบ่งเป็นดังนี้
-ธาตุเหล็ก/สีเทา = ยิ่งค่านี้สูงจะลดค่าสิ่งก่อสร้างเมื่อส่งตัวละครไปบริหารพื้นที่/เพิ่มค่าหลบหลีกให้ตัวละครนั้นๆ
-ธาตุไม้/สีเขียว = ยิ่งค่านี้สูงจะเพิ่มการเติบโตของประชากรเมื่อส่งตัวละครไปบริหารพื้นที่/เพิ่มพลังชีวิตให้ตัวละครนั้นๆ
-ธาตุน้ำ/สีฟ้า = ยิ่งค่านี้สูงจะเพิ่มจำนวนกระสุนให้กับกองทหารตัวเองและเพิ่มเสบียงให้กับกองทัพให้ตัวละครนั้นๆ(Own army)
-ธาตุไฟ/สีแดง = ยิ่งค่านี้สูงจะลดค่าจ้างตัวละครในกองทัพของตนเอง/เพิ่มพลังโจมตีให้ตัวละครนั้นๆ
-ธาตุดิน/สีทอง = ยิ่งค่านี้สูงจะเพิ่มความพึงพอใจเมื่อตัวละครเป็นผู้นำฝ่ายหรือตำแหน่งใหญ่ในสภา(ดูได้ตรงหมวดสภา)/เพิ่มค่าขวัญกำลังใจให้กับทหารของกองทัพตนเอง


12.ระบบยศ/ตำแหน่ง = ตัวละครที่ไม่ใช่ผู้นำฝ่ายผู้เล่นจะสามารถมอบยศ/ตำแหน่งให้ตัวละครเหล่านั้นได้ โดยตำแหน่งและยศต่างๆจะช่วยเพิ่ม status ต่างๆให้และความพึงพอใจให้กับแม่ทัพ อย่างไรก็ตามแม่ทัพที่ได้รับตำแหน่งจะมีค่า upkeep ที่สูงขึ้นไปด้วย


*Own retinue = ความสามารถทำเฉพาะกองทัพของตัวละครนั้นๆ


*Own army = ความสามารถทำงานทั้งกองทัพของตนเอง


*When comanding = ทำงานทั้งกองทัพเมื่อตัวละครตัวนั้นๆเป็นผู้นำกองทัพ*ต้องอยู่หน้าสุด*



-สีแดง ธาตุไฟ ตัวละครประเภทบุกทะลวง ทหารประจำสายของพวกเขาคือยูนิตม้าบุกทะลวงและม้าเกราะหนักต่างๆซึ่งมีความสามารถในการชาร์จศัตรูสูงมากทำให้พลดาบที่ไม่มีค่าต้านทหารม้าถูกฆ่าด้วยการชาร์จเพียงไม่กี่ครั้ง
+จุดเด่นความสามารถของพวกเขาจะเน้นไปที่พลังโจมตีที่รุนแรงและการลดขวัญทหารศัตรูเป็นหลัก
-จุดอ่อนของพวกเขามีค่าหลบหลีกและพลังชีวิตที่ไม่สูงมากจึงไม่เหมาะถ้านำไปดวลเพราะจะแพ้ธาตุไม้และเหล็กเปล่าๆ นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถปลดล็อค formation(ค่ายกล)ต่างๆให้กับกองทัพได้เลย


-สีเขียว ธาตุไม้ ตัวละครประเภทท้าดวลหรือแทงค์ ทหารประจำสายของพวกเขาคือทหารหอกพลง้าวและพลหอกโล่ต่างๆซึ่งเป็นยูนิตที่ใช้แก้ทางทหารม้าโดยเฉพาะ
+จุดเด่นความสามารถของพวกเขาเน้นพลังชีวิตที่มากกว่าตัวละครสายอื่นๆรวมถึงสกิลต่างๆยังใช้ในการดวลได้ดีอีกด้วยหรือจะนำไปสู้กับทหารศัตรูก็ได้
-จุดอ่อนของพวกเขาคือค่าหลบหลีกที่ต่ำมากๆถึงแม้จะมีพลังโจมตีและพลังชีวิตที่เยอะแต่พวกเขามักจะถูกขุนพลธาตุเหล็กที่มีค่าหลบหลีกสูงกว่ายืนยื้อจนสู้ไม่ไหว นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถปลดล็อค formation(ค่ายกล)ต่างๆให้กับกองทัพได้เลย


-สีเทา ธาตุเหล็ก ตัวละครประเภทป้องกันหรือผู้พิทักษิ์ ทหารประจำสายของพวกเขาคือพลดาบต่างๆซึ่งมีพลังโจมตีและค่าหลบหลีกสูงจึงสามารถฆ่าพลหอกได้รวดเร็ว
+จุดเด่นของพวกเขาคือความสามารถหลบหลีกที่สูงมากและมีสกิลที่ยิ่งดวลนานเท่าไหร่ค่าหลบหลีกและพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆรวมถึงมีสกิลที่ช่วยลดค่าหลบหลีกของศัตรูอีกด้วยจึงเป็นตัวละครที่ทั้งเก่งบุ๋นและบู๊
-จุดอ่อนคือพวกเขามีดาเมจที่ต่ำมากๆถึงแม้ค่าหลบหลีกจะสูงแต่การไม่มีสกิลดาเมจหนักๆอย่างธาตุไม้ทำให้พวกเขาต้องพึ่งพลังโจมตีของตนเองซะส่วนใหญ่ ทำให้ถึงแม้จะหลบเก่งแต่ดาเมจทีทำมันน้อยเกินไปอาจจะถูกสกิลธาตุไม้บางสกิลตบก่อนที่พวกเขาจะได้หลบเสียอีก นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถปลดล็อค formation(ค่ายกล)ต่างๆให้กับกองทัพได้เลย


-สีฟ้า ธาตุน้ำ ตัวละครประเภทกุนซือ ทหารประจำสายของพวกเขาคือการสร้างยูนิตประเภทยิงไกลต่างๆเช่นหน้าไม้กล,หน้าไม้หรือเครื่องยิงหินและรถพ่นไฟ นอกจากนี้กุนซือยังสามารถเพิ่มกระสุนและดาเมจให้พลยิงไกลได้อีกด้วย
+จุดเด่นความสามารถกุนซือคือการปลดล็อค formation(ค่ายกล)ต่างๆให้กับกองทัพและการดีบัพศัตรูต่างๆทั้งลดค่าหลบหลีกเพิ่มคูลดาว์สกิลศัตรูหรือสกิลสายบัพอย่างเปิดแมพในการต่อสู้และบัพทหารและตัวละครอื่นๆ
-จุดอ่อนของพวกเขาคือไม่มีสกิลหรือ status ในการต่อสู้เลยหากตัวละครธาตุไฟหรือไม้ถึงตัวเมื่อไหร่เตรียมตัวตายได้เลย


-สีทอง ธาตุดิน ตัวละครประเภทบัญชาการรบ ทหารประจำสายของพวกเขาคือการจ้างทหารม้าโล่ที่มีพลังป้องกันสูงและยืนสู้ได้นานต่างจากม้าบุกทะลวงที่ยืนสู้ไม่เก่งนัก
+จุดเด่นความสามารถคือการปลดล็อค formation(ค่ายกล)ต่างๆให้กับกองทัพและสกิลบัพทหารต่างๆทำให้ทหารแตกทัพยากขึ้น
-จุดอ่อนไม่ต่างจากกุนซือพวกเขาไม่มีสกิลเกี่ยวกับการต่อสู้เลยแต่อย่างน้อย status ดูดีกว่ากุนซือทำให้พวกเขาพอสู้ได้บ้าง
การต่อสู้ 1 การต่อสู้พื้นที่ราบ

เข้าสู้ phase 2 เมื่อนำตัวละครทั้งสองฝ่ายเข้าหากันจะเข้าสู่หน้าต่างการต่อสู้ดังภาพผู้เล่นสามารถตัดสินใจได้ว่าจะสู้หรือถอย หากถอยสองครั้งและศัตรูยังตามเราได้เราจะหนีไม่ได้
การต่อสู้พื้นที่ราบ
1.รายละเอียดก่อนเริ่มสู้
1.1. Fight night battle = เมื่อฝ่ายบุกเลือกติ้กโหมดสู้ตอนกลางคืนผู้เล่นและศัตรูจะไม่สามารถเรียกกำลังเสริมมาช่วยได้และลด ขวัญกำลังใจทหารอีกฝ่าย
1.2.Deployed = จำนวนกองทหารทีเข้าสู่การต่อสู้
-Reinfocing = จำนวนกำลังเสริม
-Predicted casualties = ความเสียหายต่อกองทัพเราและศัตรู
1.3. = คอมพิวเตอร์จะคำนวนโอกาศที่เราจะชนะขึ้นมาหากหลอดเส้นสีเขียวอยู่ฝ่ายเราเยอะเราสามารถกดออโต้ได้เลยครับ หากสีแดงอยู่ฝ่ายศัตรูเยอะเราจะมีโอกาศแพ้มากกว่าครับ
1.4.Start battle = เริ่มการต่อสู้
1.5.Delegate = ออโต้การต่อสู้อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นจาก 1.3 ครับ การกดออโต้ ai จะเข้ามาคุมกองทัพเองในบางครั้งการกดออโต้จะสร้างความเสียหายมากว่าปรกติ(บางครั้งก็งงๆเหมือนกันว่ามันออโต้อีท่าไหนให้ตายไป 7/10 พอเราคุมเองเสียไป 3/10 หรือ 5/10 ก็มีครับ-*-) สามารถดูจากหลอดได้เลยครับว่าควรกดออโต้ดีไหม
1.6.Retreat = สั่งให้กองทัพถอยทัพเมื่อสั่งถอยครบสองรอบแล้วกองทัพอีกฝั่งยังตามมาได้เราจะไม่สามารถถอยทัพได้ครับ
1.7.Quick save = เซฟด่วนสำหรับคนที่อยากจะกลับมาแก้ตัวเราสามารถกด quick save ก่อนได้ครับ แต่ถ้าเราแพ้ในเกมเราสามารถกด Rematch เพื่อสู้ใหม่ได้ครับ
1.8.Map view = เราสามารถกด Map view เพื่อเช็คแผนที่เพื่อวางแผนก่อนเรารบได้ครับ
การต่อสู้ 1.1 บัพชัยภูมิและ Status ยูนิต
Status ต่างๆและบัพตามชัยภูมิ
tgvupf.jpg]
-รายละเอียด Status ทหาร
-Morale = ค่าขวัญกำลังใจค่านี้จะแสดงขวัญกำลังใจของยูนิต โดยค่านี้จะลดลงเมื่อยูนิตพลังชีวิตลดลงหรือถูกยูนิตศัตรูล้อมหลายด้าน หากค่านี้ลดจนหมดยูนิตจะเข้าสู่การแตกทัพ(สังเกตุจากธงที่กระพริบถ้าธงหายกระพริบกองทัพจะยังกลับเข้าสู่สนามรบได้) หากแม่ทัพตายหรือเริ่มมียูนิตบางส่วนหนีทัพจะทำให้ยูนิตทั้งหมดขวัญกำลังใจลดลงอย่างมาก(ยกเว้นตัวละครที่มีสกิลไม่ลดขวัญกำลังใจเมื่อแม่ทัพตายหรือสกิลไม่มีวันแตกทัพ) วิธีเพิ่มขวัญกำลังใจพยายามรักษาชีวิตแม่ทัพมี ประคองขวัญกำลังใจของยูนิตอื่นๆให้ไม่แตกทัพและหายูนิตบัพขวัญกำลังใจให้ยูนิตอื่นๆเป็นต้น
-Hit Points = พลังชีวิตของยูนิต(พลังชีวิตของยูนิตจะเปลี่ยนแปลงตามการตั้งค่า Unit size)
-Melee Charge Bonus = ค่าชาร์จ ค่านี้จะเพิ่มพลังโจมตีเมื่อชาร์จใส่ศัตรูค่านี้จะหายไปเมื่อชาร์จเสร็จ
-Melee Attack Rate = ความไวในการโจมตี ค่านี้ยิ่งเยอะยูนิตจะโจมตีไวขึ้นทำดาเมจได้เร็วขึ้น
-Melee Damage - Base = ค่าพลังโจมตีพื้นฐานยิ่งค่านี้สูงเปอร์เซ็นทำดาเมจกับยูนิตศัตรูมากขึ้น(ตีแรงขึ้น)(เฉพาะยูนิตระยะประชิด) โดยเมื่อนำยูนิตเข้าต่อสู่จะนำค่านี้ไปหักลบกับค่าต่างๆ เช่น ค่าหลบหลีก(Melee EvasionBase, Shield)และค่าเกราะ-โล่(Amour Base, Shield)
-Melee Damage - Amour-Piercing = ค่าเจาะเกราะ ค่านี้จะโจมตีโดยไม่สนพลังป้องกันดาเมจที่ทำจะเข้าพลังชีวิตโดยตรง แต่ค่าโล่และหลบหลีก(Melee Evasion - Base, Shield)สามารถป้องกันค่านี้ได้
-Melee Evasion - Base = ค่าหลบหลีก ยิ่งค่านี้สูงจะทำให้ยูนิตเพิ่มโอกาศหลบหลีกมากขึ้น(เพิ่มโอกาศให้ยูนิตไม่ได้รับดาเมจ)(เฉพาะระยะประชิด) ค่านี้จะถูกใชงานเมื่อกองทหารเข้าปะทะกันค่านี้จะทำงานแค่ด้านหน้าและด้านซ้ายและขวา ด้านหลังจะไม่ทำงาน
-Melee Evasion - Shield = ค่าหลบหลีก(เฉพาะตัวละครถือโล่) ยิ่งค่านี้สูงจะทำให้ยูนิตเพิ่มโอกาศหลบหลีกมากขึ้น(เพิ่มโอกาศให้ยูนิตไม่ได้รับดาเมจ)(เฉพาะระยะประชิด) ค่านี้จะทำงานเฉพาะด้านหน้า
-Amour - Base = ค่าเกราะพลังป้องกันพื้นฐาน ค่านี้จะช่วยลดความเสียหายต่างๆทั้งดาเมจระยะไกล ใกล้และระเบิด ค่านี้ไม่สามารถป้องกันการเจาะเกราะได้(Amour-Piercing)
-Amour - Shield = ค่าพลังป้องกัน(เฉพาะยูนิตถือโล่)ค่านี้จะช่วยลดความเสียหายต่างๆทั้งดาเมจระยะไกลและใกล้ (ทำงานเหมือนค่า Amour - Base)แต่จะป้องกันเฉพาะด้านหน้า ค่านี้ไม่สามารถป้องกันการเจาะเกราะได้(Amour-Piercing)
-Range Block Chance = ค่าป้องกันยูนิตระยะไกล ไม่ว่าจะถือโล่หรือไม่ถือยิ่งค่านี้สูงจะช่วยลดดาเมจที่ได้รับจากยูนิตระยะไกลทั้งดาเมจพื้นฐานและเจาะเกราะ(Range Damage - Base, Armour-Piercing) แต่ค่านี้ไม่สามารถป้องกันดาเมจจากเครื่องยิงหินได้
-Range Attack Rate = ความไวในการยิงของยูนิตระยะไกล ค่านี้สูงเท่าไหร่ยูนิตจะยิงเร็วขึ้น
-Range Damage - Base = พลังโจมตีของยูนิตระยะไกลค่านี้จะถูกนำไปหักลบกับค่าโล่และเกราะ(Amour - Base, Shield)
-Range Damage - Armour-Piercing = ค่าพลังโจมตีเจาะเกราะของยูนิตระยะไกลจะทำดาเมจตรงกับพลังชีวิตศัตรูโดยตรง แต่ Range Block Chance สามารถป้องกันค่านี้ได้
-Range = ระยะในการยิง
-Ammunition = จำนวนกระสุน
-Speed = ความเร็วของยูนิต


บัพพิเศษทหารทุกตัวจะมีบัพพิเศษต่างกันออกไปช่วยเพิ่มจุดเด่นและหน้าที่ของทหารตัวนั้นๆโดยสามารถนำเมาส์ไปชี้ไอคอนหรือ text เพื่อดูความสามารถได้ครับ
-บัพพิเศษของทหาร
-Unbreakable = ความสามารถส่วนใหญ่ของทหารพิเศษและทหารขั้นสูงๆ ไม่มีวันแตกทัพและสู้จนตัวตาย
-Immune to fatigue = ความสามารถส่วนใหญ่ของทหารม้าพิเศษ ทำให้ไม่มีวันเหนื่อย
-Resistant to fatigue = ทำให้เหนื่อยยากขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในแม่ทัพและทหารม้า
-Splash attack = ความสามารถส่วนใหญ่ของพลดาบยาว ทำให้ตีกระจายหรือตีหมู่ สร้างความเสียหายให้ยูนิตเป็นวงกว้าง
-Shield breaker= ความสามารถส่วนใหญ่ของยูนิตขวานต่างๆ ทำให้ยูนิตที่ถือโล่ต่างๆโดนดีบัพค่าหลบหลีกลง -65%
-Charge reflection vs. mounted = ต่อต้านทหารม้า ความสามารถส่วนใหญ่ของพลหอก การต่อต้านทหารในภาคนี้จะแตกต่างกับภาคอื่นๆโดยจะต้องให้ทหารอยู่นิ่งๆเป็นระยะเวลหนึ่งความสามารถนี้จึงจะทำงาน เมื่อทหารม้าชาร์จเข้ามาจะโดนสะท้อนดาเมจกลับไป ถ้าผู้เล่นนำพลหอกไปชาร์จใส่ม้าค่านี้จะไม่ทำงาน
-Scare = สร้างความหวาดกลัว ลดขวัญกำลังใจทหารรอบๆที่อยู่ในระยะ หากยูนิตมีค่าความหวาดกลัวเหมือนกันผลจะไม่ทำงาน
-Immune to Scare = ต่อต้านความหวาดกลัว
-Terror = ทำงานคล้ายค่าความหวาดกลัวแต่จะต่างที่ทหารที่อยู่ในระยะถ้าขวัญกำลังใจต่ำจะแตกทัพทันที
-Immune to Terror = ต่อต้านค่าขู่ขวัญ
-Disciplined = เมื่อแม่ทัพตายขวัญกำลังใจจะไม่ลด
-Resistant to heat = เหนื่อยยากขึ้นบนทะเลทราย
-Missile resistant = ความสามารถส่วนใหญ่ของทหารม้าถือโล่ ต่อต้านการยิงไกลลดความเสียหายจากยูนิตระยะไกล
-Charge negation = ลดความเสียหายจากชาจ
-Guerrilla deployment = วางนอกกรอบได้ ทำให้เราสามารถนำทหารไปซุ้มรอในแนวหลังของศัตรูได้
-Flaming shot= ยิงธนูไฟได้ ธนูไฟจะลดขวัญกำลังใจทหารลงและใช้ในการเผาหอรบ น้ำมัน ป่า และยูนิตที่แพ้ไฟจะโดนดาเมจมากขึ้น
-Poison shot= ยิงธนูพิษได้ ธนูพิษจะดีบัพ status ของทหารลงช่วยทำให้แนวหน้าของเราสู้ง่ายขึ้น
-Snipe = เมื่อยูนิตนี้ิงจากระยะไกลจะซ่อนตัวและไม่เปิดเผยตัว(จะเห็นแค่กระสุนมาจากทางไหนแต่ไม่เห็นยูนิต)
-Raider = เผาสิ่งก่อสร้างในฉากรวมถึงหอคอยหรือป้อมต่างๆในเมือง(ส่วนตัวรู้สึกเผาช้าไปหน่อยวิ่งเข้าไปยึดจะเร็วกว่า)
-Stalk = เมื่อเดินในสนามรบจะซ้อนตัว(จะไม่เห็นยูนิตตัวนั้นๆเลยจนกว่ามันจะโจมตีหรือเขาใกล้มากๆ)
-Ignore ground type = ส่วนใหฐ่อยู่ในทหารระดับสูงทำให้ไม่โดนดีบัพจาชัยภูมิและภูมิประเทศต่างๆ



ยูนิตในภาคนี้จะมีการแบ่งระดับเป็นสามประเภท light(เกราะเบา) medium(เกราะกลาง) heavy(เกราะหนัก) โดยจะมีบัพและดีบัพดังนี้ ตามโบนัสชัยภูมิและภูมิอากาศ ดังนี้
-ป่า เมื่อยูนิตเข้าป่าจะได้รับบัพกันธนูเพิ่มขึ้น +25% และจะโดนดีบัพตามขนาดเกราะ อย่างไรก็ตามแม้ว่าป่าจะสามารถใช้หลบธนูได้ดีแต่ป่าก็สามารถถูกเผาได้ซึ่งจะสร้างความเสียหายแบบเผาไหม้ไปเรื่อยๆ
เกราะเบา = ไม่โดนดีบัพ
เกราะกลาง = -10% ค่าค่าหลบหลีกและความเร็ว(ทหารม้าจะโดนแค่ -10%ความเร็วและค่าหลบหลีก)
เกราะหนัก = -25% ค่าหลบหลีกและความเร็ว(ทหารม้าจะโดนแค่ -25%ความเร็วและค่าหลบหลีก)
-แม่น้ำหรือหนองน้ำจะช่วยลดค่าชาจและความเร็วของยูนิตทำให้ทหารม้าที่เก่งในการชาจจะโดนผลกระทบเต็มๆ แม่น้ำจะมีดีบัพตามขนาดเกราะ
เกราะเบา = -25% ความเร็ว(ทหารม้าจะโดนแค่ -10%)
เกราะกลาง = -50% ความเร็ว(ทหารม้าจะโดนแค่ -25%)
เกราะหนัก = -50% ความเร็ว(ทหารม้าจะโดนแค่ -25%)
-หิมะจะทำให้ยูนิตทุกประเภทความเร็วลดลงและทำให้ทหารเหนื่อยง่ายขึ้นเหมือนทะเลทรายและฝน
เกราะเบา = -50% ค่าหลบหลีกและ -25%ความเร็ว
เกราะกลาง = -15% ความเร็ว
เกราะหนัก = -15% ความเร็ว(ทหารม้าจะโดนแค่ -25%)
-ทะเลทรายและฝนจะทำให้ทหารเหนื่อยง่ายขึ้น
การต่อสู้ 1.2 อินเตอร์เฟสในสนามรบ

-รายละเดียดต่างๆในสนามรบ
1.แผนที่แสดงภูมิประเทศนั้นๆ
2.Status ของแม่ทัพและยูนิต
3.คำสั่งและสกิลของแม่ทัพและยูนิต


1.คำสั่งต่างๆในสนามรบ
1.1.คำสั่งเร่งความเร็วยูนิตหรือแม่ทัพ
1.2.คำสั่งให้ทหารหรือแม่ทัพหยุดทุกการกระทำ เช่น ถ้าสั่งพลธนูพลธนูก็จะหยุดยิง ถ้ายูนิตเดินอยู่ก็จะหยุดเดิน
1.3.คำสั่งให้ยูนิตรวมกลุ่ม เช่น ผู้เล่นอาจจะตั้งกลุ่ม 1 เป็นทหารราบ กลุ่มที่ 2 เป็นพลธนูเป็นต้นทำให้ควบคุมกลุ่มยูนิตง่ายขึ้น
1.4.คำสั่งให้ยูนิตรักษากระบวน เมื่อเปิดคำสั่งนี้ยูนิตจะรักษากระบวนที่เราวางเอาไว้ไม่ว่ายูนิตศัตรูจะวิ่งเข้ามาใกล้หรือสู้ชนะยูนิตของเราก็จะไม่วิ่งตาม
หลักการทำงานปรกติถ้ายูนิต A และ B เข้าสู้กันเมื่อยูนิต B แพ้ยูนิต A จะวิ่งตามเสมอ เมื่อยูนิต B แพ้ ยูนิต A จะไม่ตามยูนิต B
หรือเมื่อใช้กับยูนิตยิงไกลยูนิตตัวนั้นก็ยิงเป้าหมายที่เราสั่งเอาไว้ไม่เปลี่ยนไปยิงยูนิตอื่น
1.5.คำสั่งให้ยูนิตยิงไกลเข้าสู่โหมดโจมตีระยะประชิด
1.6.คำสั่งให้ยูนิตลงจากม้า
1.7.คำสั่งให้แม่ทัพไม่รับการดวล
1.8.สกิลของแม่ทัพหรือยูนิต
1.9.ระบบดวลเป็นระบบใหม่ของภาคนี้ เมื่อใช้งานแม่ทัพทั้งสองฝ่ายจะเข้าดวลกันจนกว่าแม่ทัพฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแพ้หากเป็นแม่ทัพทั่วไปการแพ้จะทำให้แม่ทัพตาย ถ้าเป็นแม่ทัพในตำนานก็จะบาดเจ็บและรอให้หายบาดเจ็บ
1.10.คำสั่งให้ยูนิตยิงไกลถอยทันทีเมื่อยูนิตศัตรูเข้ามาใกล้




-เมื่อทำการรบเสร็จตัวเกมจะสรุปยอดผู้เสียชีวิตและแม่ทัพของอีกฝ่ายที่เราจับได้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะปล่อยไปแลกกับเงิน(release) จ้างเข้ามาอยู่ฝ่ายเรา(employ) (บางครั้งแม่ทัพบางคนจะไม่ยอมง่ายๆต้องจับหลายๆครั้ง)หรือประหารชีวิตเพื่อแย่งไอเทม(execute) ส่วนตัวในการเล่นระดับยากขึ้นไปการประหารแม่ทัพจะเป็นผลดีเพราะทำให้อีกฝ่ายต้องเสียตัวละครเก่งๆไปแต่ต้องแลกกับการโดนตัวละครอื่นๆที่มีความสัมพันธ์กับตัวละครนั้นไม่ชอบหน้าเราแทน
การต่อสู้ 2 การตีเมือง
การตีเมืองจะมีหน้าต่างเหมือนการรบบนที่ราบ โดยจะมีตัวเลือกเพิ่มมาอีกสองอันคือการล้อมเมืองและการสร้าง
อุปกรณ์ตีเมืองต่างๆ
1.การล้อมเมืองจะเป็นการตัดเสบียงของเมืองทำให้ทหารของอีกฝ่ายอดอาหารแล้วตายลงเรื่อยๆ

2.กรณีที่เป็นเมืองใหญ่จะสามารถสร้างอุปกรณ์ตีเมืองได้โดยจะมี 3 อย่างคือ
2.1.อุปกรณ์กระทุ้งประตูเอาไว้ใช้ทำลายประตู
2.2.หอรบใช้เพื่อส่งทหารบนกำแพงโดยจะช่วยป้องกันธนูทำให้ลดการตายของทหารของเราก่อนถึงกำแพง(ยูนิตสามารถปืนกำแพงได้โดยกดที่ยูนิตแล้วคลิ๊กขวาที่กำแพง)
2.3.ขุดอุโมงทำลายกำแพงเมืองทำให้กำแพงเมืองอีกฝั่งพังทลายๆเป็นช่องๆทำให้ยูนิตไม่ต้องเสียเวลาข้ามกำแพง
เมืองจะมีป้อมตามจุดต่างๆผู้เล่นสามารถส่งยูนิตไปยึดป้อมเหล่านั้นได้หรือจะใช้เครื่องยึงหินทำลายได้เช่นกัน การตีเมืองนอกจากการฆ่ายูนิตอีกฝ่ายให้แตกทัพทั้งหมดผู้เล่นสามารถยึดจุดสำคํญต่างๆในเมืองเพื่อชนะได้เหมือนกัน
ข้อแนะนำการทำลายสิ่งก่อสร้างหรือเผาเมืองจะทำให้ยูนิตอีกฝ่ายติดดีบัพไปเรื่อยๆ


หลังจากชนะจะมีตัวเลือกขึ้นมาสามอย่างคือ 1.ยึดเมืองเป็นของเรา 2.ปล้นและยึดเมืองเพื่อให้ได้รับเงินแต่จะทำให้เมืองเสียหายและประชาชนในเมืองลดลง 3.ปล้นแต่ไม่ยึดเมือง
Dlc
เชื่อว่าผู้เล่นใหม่หลายๆคนที่พึ่งเริ่มเล่น Total war Three kingdom อาจจะสงสัย Dlc ต่างๆว่ามีคอนเท้นอะไรบ้าง โดย Dlc ในภาคนี้ผมจะขอแบ่งเป็นสองแบบก็คือ Faction pack ที่จะเป็นการเพิ่มฝ่ายใหม่ๆ เช่น Dlc ฝ่ายกบฎผ้าเหลืองและชนเผ่าม่านใต้ และ Chapter pack ที่จะเพิ่ม Time line ใหม่ๆให้และฝ่ายใหม่ๆให้กับตัวเกมอย่าง A World Betrayed ที่เพิ่มปี 194 CE และเพิ่มฝ่ายซุนเซ็กกับลิโป้ แถมยังเป็นช่วงที่เล่าปี่ได้ชีจิ๋วและเปิดศึกกับโจโฉเป็นต้น
ใน Page นี้จะเป็นการสรุปคอนเท้น Dlc ต่างๆ+รีวิวความคิดเห็นส่วนตัวเรื่องความคุ้มค่าของคอนเท้นใน Dlc ต่างๆไล่ตามปีดังนี้


จัดเทียร์แบบสรุปสั้นๆสำหรับส่วนแบบลงรายละเอียดอยู่ด้านล่างครับ

Yellow Turban Rebellion

-เป็น Dlc ที่เพิ่มฝ่ายใหม่อย่างกลุ่มโจรโผกผ้าเหลือง 3 ฝ่ายได้แก่ He Yi(โฮหงี) ที่จะยึดเมืองโดยไม่โดนดีบัพ Gong Dou(กงเต๋า) มี stance ปล้นได้เหมือนฝ่ายโจร และ Huang Shao(อุยเซียว) มีความสามารถเลื่อนยศได้เร็วกว่าฝ่าอื่นๆ โดยคอนเท้นใหม่ๆและสิ่งที่ต่างจากฝ่ายฮั่น อย่างแรกแม่ทัพฝ่ายผ้าเหลืองจะเป็นธาตุผสมซึ่งก็มีสกิลใหม่ๆประจำฝ่ายผ้าเหลืองเอง Reform แบบใหม่ ฝ่ายผ้าเหลืองมาพร้อมการวิจัยของตัวเองซึ่งจะแตกต่างจากฝ่ายอื่นๆ ยูนิตใหม่ ยูนิต Tire ต้นๆของฝ่ายผ้าเหลืองจะอ่อนแอมากๆทำให้ต้นเกมต้องใช้จำนวนก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยูนติ Tire สูงมาช่วยแบกกองทัพ
-ความเห็นส่วนตัว 3/5
แม้ว่าคอนเท้นของ Yellow Turban Rebellion จะทำได้ดีไม่ว่าจะเป็นความยากของกลุ่มผ้าเหลืองที่เล่นยากกว่าฝ่ายฮั่นซึ่งเหมาะสำหรับคนชอบความท้าทายหรือเหล่ายูนิตและ Reform ใหม่ๆที่ต่างจากฝ่ายฮั่น อย่างไรก็ตามในความคิดเห็นของผม Dlc Yellow Turban Rebellion ยังไม่สมบูรณ์แบบด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น การที่ภาคนี้ขาดระบบศาสนาทำให้การปลุกกบฎชาวบ้านมาช่วยเหมือนภาค Shogun 2 ไม่ได้ทำให้เอกลักษณ์ของผ้าเหลืองหายไปและยูนิตส่วนใหญ่ของฝ่ายผ้าเหลืองก็ไม่ค่อยแตกต่างกับฝ่ายฮั่นนอกจาก Status ทำให้การ Battle ไม่ค่อยต่างกับฝ่ายฮั่นเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณสนใจในความท้าทายและความยากในการเล่นเป็นกลุ่มผ้าเหลืองในช่วงบั้นปลาย Dlc นี้ก็เหมาะกับคุณ


Reign of Blood
-เป็น Dlc ที่ช่วยเพิ่มเอฟเฟ็คเลือดและการขาดของอวัยวะต่างๆเข้ามาในเกม ซึ่ง Dlc เลือดในภาคนี้คุณจะสามารถปรับความจางและการกระจายของเลือดได้ ซึ่งจะต่างกับภาคเก่าๆที่ไม่มีฟังชั่นต์นี้
-ความเห็นส่วนตัว 3/5
ข้อดีของ Dlc นี้คือความแปลกใหม่ในการเล่นที่ต่างจากฝ่ายฮั่นไม่ว่าจะเป็นระบบจ้างแม่ทัพหรือระบบวิจัยและความถ้าทายมากขึ้น แต่ข้อเสียหลักๆของ Dlc นี้คือความแตกต่างที่ยังน้อยเกินไป อย่างยูนิตของฝ่ายกบฏโผกผ้าเหลืองที่แทบไม่ต่างจากฝ่ายฮั่นนอกจาก status หรือระบบฝ่ายที่ทำออกมาไม่หลายหลาย ทำให้ตอนเล่นมันเลยไม่ต่างจากฝ่ายฮั่นเท่าไหร่ไหนจะการที่ภาคนี้ไม่มีระบบศาสนาเลยทำให้ไม่ได้รู้สึกถึงการเล่นโจรโผกผ้าเหลืองเท่าไหร่ ซึ่งถ้าอยากเล่นฝ่ายโจรโผกผ้าเหลืองที่มีระบบดีกว่าจะแนะนำ Dlc Mandate of Heaven แทนครับ


Eight Princes
-เป็น Dlc chater pack โดยจะเพิ่ม time line ในปี 291 ซึ่งเป็นช่วงที่สามก๊กจบลงและลูกหลานของสุมาอี้ปกครองแผ่นดินจีน ฝ่ายใหม่ประจำ Dlc จะเป็นเหล่าลูกหลานของสุมาอี้ 8 ฝ่ายซึ่งก็มาพร้อมระบบฝ่ายและยูนิตใหม่ๆเช่น ยูนิตเผ่าซงหนูหรือเซียนเป่ย เป็นต้น ระบบประจำ campaign alignments ซึ่งจะเป็นบัพพิเศษต่างๆโดยสามารถเพิ่มค่านี้จากเควส
โดยส่วนตัวแนะนำให้ข้าม Dlc นี้เพราะสำหรับ Dlc Eight prince หรือ 8 อ๋องนั้นเป็น Dlc ที่ออกแบบได้ไม่ดีเท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็นคอนเท้นภายใน Dlc ที่แทบจะยกเกมหลักมาปรับใช้จนไม่มีอะไรใหม่เลย โมเดลใหม่ที่มีแค่ผู้นำ 8 ฝ่าย ระบบฝ่ายส่วนใหญ่ที่ยกจาเกมหลักมาซะเกือบหมด ยูนิตใหม่ที่น้อยเกินไปและการขาดอีเว้นสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างการรุกรานของเผ่านอกด่านทำให้ Dlc จืดจางมากๆ


Mandate of Heaven
-เป็น Dlc chapter pack โดยจะเพิ่ม time line ใหม่ในปี 182 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มก่อการของกลุ่มกบฏผ้าเหลือง
คอนเท้นใหม่ๆประกอบไปด้วยฝ่ายผ้าเหลือง 3 ฝ่ายได้แก่สามพี่น้องสกุลเตียวและฝ่ายฮั่น 3 ฝ่ายคือ(โลติด) อาจารย์ของเล่าปี่ Liu Hong(พระเจ้าเลนเต้)และ Liu Chong(เล่าฉง)ที่สามารถเล่นได้ทั้งปี 182 และ 190 เพิ่มอีเว้นประจำ campaign อย่างการสู้กันระหว่างฝ่ายฮั่นและผ้าเหลืองจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายกันไปข้าง

ฝ่ายผ้าเหลืองระบบการเล่นไม่ต่างจากเดิม แต่พวกเขาได้รับการยกเครื่องใหม่ไม่ว่าจะเป็นระบบฝ่ายใหม่อย่าง Zeal ที่หารกันระหว่างฝ่ายสามพี่น้องซึ่งจะช่วยเพิ่มบัพให้กับฝ่ายของตน อย่าง Zhang Jue(เตียวก๊ก)ที่จะช่วยเพิ่มการฟื้นฟูยูนิตและรายได้จาการค้าในขณะที่ Zhang Bao (เตียวโป้)จะช่วยเพิ่มดาเมจให้กับยูนิต ลดขวัญกำลังใจศัตรูและเพิ่มรายได้จากอุตสาหรกรรมแทน นอกจากนี้ระบบ Zeal จะช่วยให้ฝ่ายผ้าเหลืองแพร่ Flavor หรือความศรัทธาในผ้าเหลืองไปยังพื้นที่ต่างๆเพื่อทำให้ชาวบ้านลุกฮือมาก่อกบฎได้อีกด้วย ส่วนฝ่ายฮั่นโลติดจะมีความสามารถในการใช้หนังสือต่างๆมาบัพฝ่ายตัวเองได้โดยหนังสือต่างๆจะมีเงื่อนไขในการปลดล็อคหนังสือใหม่ๆมาใช้งาน เล่าฉงจะมีความสามารถคล้ายกับโลติดที่จะปลกล็อคธงต่างๆมาช่วยบัพฝ่ายตัวเองและต้องทำเงื่อนไขต่างๆเพื่อปลดล็อคธงเพิ่ม แต่เล่าฉงจะมีบัพที่ช่วยเพิ่มค่าขวัญกำลังใจ เพิ่ม Exp เวลาสร้างของยูนิต และลดขวัญกำลใจของอีกฝั่ง และพระเจ้าเลนเต้จะมีค่าPolitical Influence จะช่วยเพิ่ม public order ให้กับฝ่ายและใช้ในการขอเมืองคืนจาก Vassal ได้ นอกจากนี้ฝ่ายพระเลนเต้จะมีระบบที่เหล่าคุณนางจะชิงอำนาจในสภาทำให้เราบาลานซ์การให้ตำแหน่งขุนนางระหว่างฝ่ายขุนศึก ฝ่ายราชวงศ์และฝ่ายขุนนางเพื่อไม่ให้เกิดดีบัพกับฝ่ายเรามากเกินไป การปลดขุนนางแย่ๆออกยังจำเป็นต้องใช้ Political Influence ในการไล่ขุนนางออก
นอกจากนี้ตัวละครใน Campaign หลักบางตัวก็สามารถเล่นใน time line นี้ได้อย่างเล่าปี่ที่จะเริ่มมาโดยไม่มีกวนอูและเตียวหุยหรือตั๋งโต๋ะที่เพิ่งเริ่มตั้งตัว

-ความเห็นส่วนตัว 4/5
ข้อดีของ Dlc นี้ ถือเป็นการแก้ตัวจากความผิดพลาดใน Dlc เก่าๆที่เคยทำมาด้วยคอนเท้นใหม่ๆมากมาย ทั้งยูนิตใหม่ๆหรือระบบฝ่ายฮั่นของฝ่ายพระเจ้าเลนเต้ที่ทั้งสนุกและท้าทายหรือฝ่ายผ้าเหลืองที่ได้รับการยกเครื่องระบบใหม่ทั้งหมดต่างจาก Yellow Turban Rebellion มากๆ
ข้อเสียหลักๆของ Dlc นี้คือความยากด้วยความที่ทั้งฝ่ายฮั่นและกลุ่มกบฏโผกผ้าเหลืองจะถูกอีเว้นบังคับให้สู้กันตั้งแต่ต้นเกมทำให้การเล่นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การรบมากกว่าการบริหาร แถมฝั่งผ้าเหลืองก็ยังเสียเปรียบเรื่องฝ่ายที่น้อยกว่า(และบอทที่ไม่ยอขยายดินแดน)ทำให้ช่วงต้นเกมเราจะถูกล้อมแทบทุกด้าน รวมถึงบัคต่างๆ(โดยส่วนตัวผมเล่นหลังจาก patch แก้บัคไปแล้วเลยไม่ทราบว่ายังมีบัคใน dlc มากน้อยแค่ไหน) อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ชอบก็คือความงงๆของบอทอย่างฝ่ายฮั่นบางครั้งพระเจ้าเลนเต้ก็จะสงบศึกกับผ้าเหลืองแบบงงๆหรือเล่นเตียวก๊กแล้วน้องๆของเราไม่ยอมขยายดินแดนทำให้แต้มระบบของเราลดลงอย่างรวดเร็ว
(หลังจากนี้มีบาง Dlc ผมไม่ได้ซื้อเพราะเหตุผลต่างๆไม่ว่าจะเป็นความคุ้มค่าของคอนเทนที่น้อยเกินไปหรือราคา Dlc ที่ราคาค่อนข้างสูง ทำให้ Dlc หลังจากนี้เลยจะไม่ใช่รีวิวแต่เป็นความเห็นต่อความคุ้มค่าใน Dlc ต่างๆ)
Dlc 2

A World Betrayed
-เป็น Dlc chapter pack โดยจะเพิ่ม time line ใหม่ในปี 194 ซึ่งเป็นช่วงที่เหล่าขุนศึกเริ่มตั้งตัวเป็นใหญ่หลังตั๋งโต๊ะตาย ฝ่ายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ Lu Bu(ลิโป้) และ Sun Ce(ซุนเซ็ก) โดยลิโป้จะมีปัญหาในเรื่องการปกครองอย่างมากจึงจำเป็นต้องพึ่งความสามารถประจำฝ่ายอย่าง Momentum ซึ่งช่วยเพิ่มค่าความพึงพอใจของตัวละครในฝ่ายให้ดีขึ้นและยังมีบัพอื่นๆอย่าง เดินทัพได้ไกลขึ้น เพิ่มการฟื้นฟูกองทัพและขวัญกำลังใจของยูนิต อีกระบบของลิโป้คือ Greatest warriors โดยจะเป็นเควสให้ลิโป้ไปสู้กับตัวละครที่กำหนดไว้หากชนะจะได้บัพตามเงื่อนไขที่ทำสำเร็จ นอกจากนี้ฝ่ายลิโป้ยังสามารถใช้ค่า Momentum ในการยึดเมืองหรือเพิ่มระยะการเดินทำหลังการรบได้อีกด้วย ส่วนฝ่ายซุนเซ็กจะมีระบบใหม่ Reckless luck ซึ่งจะเป็นค่าพิเศษที่ช่วยเพิ่มเสบียงประจำกองทัพ ระยะการเดินทัพและลด upkeep ของยูนิตแต่หากค่านี้หมดซุนเซ็กจะตายทันที อีกหนึ่งระบบคือ Legacy of Wu ซึ่งจะเหมือนของลิโป้แต่เปรียบจากสู้กับตัวละครเป็นยึดเมืองตามที่กำหนดหากทำสำเร็จก็จะได้บัพ Reckless luck และบัพตามเงื่อนไขของเควสเป็นรางวัล นอกจากนี้ตัวลครในแคมเปญหลักอย่างโจโฉ เล่าปี่ก็จะมีอาณาเขตและตัวละครเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 190

-สาเหตุที่ไม่ได้ซื้อ Dlc นี้หลักๆก็เป็นเรื่องความคุ้มค่าของคอนเทนภายใน dlc แม้ว่าตัวลิโป้และซุนเซ็กมีความสามารถใหม่ๆที่เป็นการทำเควสต่างๆเพื่อรับบัพ แต่ระบบพวกนี้ก็ยังคงอยู่กับฉากการรบแบบเดิมๆซึ่งนี้ถือเป็นปัญหาหลักของเกมที่ Dlc ส่วนใหญ่แก้ไขไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากกลับมาเล่นน้อยลง(ยังไม่นับว่าสองตัวละครนี้เราสามารถเล่นได้ในปี 190) อีกสิ่งนึงที่ผมไม่ได้พูดคือเรื่องรายชื่อยูนิตใหม่ๆที่เพิ่มมาใน Dlc ต่างๆ ซึ่งใน A World Betrayed ก็มีการเพิ่มยูนิตใหม่ๆมาแค่ 4 ตัว ซึ่งถ้าเทียบกับ Mandate of Heaven ที่เพิ่มคอนเทนมากกว่าทำให้ผมมองว่าการซื้อ Dlc ไม่ได้ช่วยทำให้เกมมีความหลากหลายขึ้นและรู้สึกอยากกลับมาเล่นเกมนี้ซ้ำมากเท่าไหร่ ทำให้ Dlc นี้เหมาะกับคนที่ชอบลิโป้และซุนเซ็กมากกว่า


The Furious Wild
-เป็น dlc Expansion Pack ซึ่งจะเพิ่มฝ่ายใหม่เผ่าม่านใต้ชนเผ่าที่อาศัยอยูทางใต้สามารถเล่นพวกเขาได้ในปี 190 และ 194(ต้องมี dlc A World Betrayed ถึวจะเล่นในปีนี้ได้) โดยฝ่ายใหม่ได้แก่ Meng Huo(เบ้งเฮก) King Shamoke(สะโมโข) Lady Zhurong(จงหยงฮูหยิน)และKing Mulu(บกลกไต้อ๋อง) แต่ละฝ่ายจะมาพร้อมกับความสามารถประจำฝ่ายที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองคอนเท้นใหม่ๆใน Dlc เพิ่มยูนิตใหม่มากกว่า 20 ตัวโดยยูนิตเด่นๆจะเป็นเหล่าสัตว์ป่าอย่างเสือและช้าง

คอนเท้นใหม่ๆใน dlc ฝ่ายม่านใต้มาพร้อมเงื่อนไขในการจบเกมโดยจำเป็นต้องรวมเผ่าม่านใต้ทั้ง 19 เผ่าให้เป็นหนึ่งเพื่อจบเกม ซึ่งการรวมเผ่าต่างๆผู้เล่นจะได้บัพพิเศษและสำหรับการรวม 6 เผ่าใหญ่ผู้เล่นจะได้รับยูนิตประจำเผ่านั้นๆมาใช้งานอีกด้วย สำหรับแม่ทัพฝ่ายม่านใต้มาพร้อมกับการไม่มีธาตุทำให้ผู้เล่นสามารถอัพสกิลธาตุได้ตามความต้องการของผู้เล่น(นอกจากนี้แม่ทัพฝ่ายม่านใต้สามารถถูกจับได้โดยฝ่ายอื่นๆแม้ว่าผู้เล่นจะไม่มี Dlc นี้ก็ตาม)และสกิลของแม่ทัพฝ่ายม่านใต้ยังมาพร้อมกับการทำเงื่อนไขเพื่อปลดล็อคอย่างเช่น การปลดสกิล fight night battle ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้ตัวละครตัวนั้นดักซุ่มโจมตีสามครั้งเพื่อปลดล็อคสกิล ในด้านการรบฝ่ายม่านใต้จะได้รับบัพพิเศษเมื่อสู้อยู่ในป่าของดินแดนม่านใต้ ในส่วนการวิจัยฝ่ายม่านใต้มาพร้อมกับการวิจัยสองสายซึ่งผู้เล่นต้องเลือกสายใดสายหนึ่งระหว่างการวิจัยรับเทคโนโลยีจากฝ่ายฮั่นหรือวิจัยเพื่อยังคงเป็นม่านใต้ต่อไปซึ่งการวิจัยแต่ละสายจะให้บัพและการปลดล็อคสิ่งก่อสร้างที่แตกต่างกัน

ในส่วนความสามารถพิเศษเบ้งเฮกมาพร้อมความสามารถอย่าง King of the king เมื่อยึดม่านใต้ฝ่ายอื่นๆจะทำให้เบ้งเฮกได้รับบัพพิเศษชั่วคราวอย่างเพิ่มดาเมจ เพิ่มการฟื้นฟูกองทัพ เพิ่มรายได้ให้กับฝ่ายเป็นต้น บกลกไต้อ๋องมาพร้อมกับระบบ Pride & Ritual ระบบแรกจะช่วยเพิ่มขีดจำกัดการสร้างและลดราคายูนิตสัตว์ ระบบสองจะเป็นการทำพิธีกรรมพิเศษเพื่อรับบัพและดีบัพให้ฝ่ายบกลกไต้อ๋อง เช่น พิธีกรรมที่จะช่วยให้ตัวละครและประชาชนในฝ่ายมีความสุขมากขึ้นแลกกับการสร้างสิ่งก่อสร้างนานขึ้นและแพงขึ้นแทน โดยการปลดล็อคพิธีกรรมใหม่ๆได้จากเควสต่างๆ ฝ่ายสะโมโขมีลูกเล่นอย่าง Unification Mandate ซึ่งจะเป็นการเลือกระหว่างการรวมเผ่าหรือให้พวกเขาเป็นเมืองขึ้นของผู้เล่นเพื่อรับบัพพิเศษที่แตกต่างกัน ฝ่ายสุดท้ายจงหยงมาพร้อมกับระบบ Goddess of Fire เก็บแต้มในการบูชาไฟเพื่อเพื่อรับบัพพิเศษตามฤดูกาลต่างๆ ซึ่งบัพพิเศษจะลดลงเรื่อยๆเมื่อบัพหมดจะทำให้เราติดดีบัพต่างๆชั่วคราวซึ่งผู้เล่นสามารถกดหยุดพิธีเพื่อยกเลิกบัพและดีบัพได้ (ซี่งระบบบูชาไฟนั้นจะกึ่งๆบังคับให้ทำพิธีตลอดเพราะเวลาแต้มเต็มจะทำให้เกิดดีบัพลดค่าความพึงพอใจในฝ่ายเรื่อยๆ ทำให้ฝ่ายผู้เล่นไม่สามารถเก็บแต้มพิเศษไว้ใช้ในอนาคตได้)

4/5
ข้อดีของ Dlc นี้ก็คือคอนเท้นใหม่ๆที่ต่างจากฝ่ายฮั่นไม่ว่าจะเป็นระบบรวมเผ่าเพื่อรับบัพต่างๆ ยูนิตสัตว์ที่เพิ่มความหลากหลายให้กับการรบมากขึ้น สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือระบบวิจัยซึ่งมีสองทางเลือกทำให้เราสามารถกลับมาเล่นใหม่ได้อย่างน้อยสามครั้งด้วยการเลือกวิจัยที่แตกต่างกัน นอกจากนี้การปั้นแม่ทัพม่านใต้ที่เราสามารถอับสกิลได้ตามใจชอบตามสถาการณ์ของเราสกิลที่เราอยากได้ในตอนนั้น ส่วนข้อเสียหลักๆของ Dlc นี้ถึงแม้ว่าม่านใต้จะมีความหลากหลายและแตกต่างจากฝ่ายฮั่น แต่กับม่านใต้ด้วยกันความแตกต่างถือว่าน้อยมากๆด้วยความที่เป้าหมายทุกฝ่ายของม่านใต้นั้นเหมือนๆกันคือการรวมเผ่าทำให้การเปลี่ยนฝ่ายเล่นจึงไม่ค่อยให้ความแตกต่างเท่าไหร่ทำให้การกลับมาเล่นซ้ำกลายเป็นเหตุการณ์เดิมๆ(ตั้งตัว-รวมเผ่า-ตีฝ่ายฮั่น) อีกอย่างก็ยูนิตของม่านใต้ที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันเท่าไหร่ทำการกลับมาเล่นซ้ำเลยน้อยลงไปอีก


The Fate Divided
-เพิ่ม time line ใหม่ในปี 200 และฝ่ายใหม่อย่างเล่าเอี๋ยนพ่อของเล่าเจี้ยงแห่งเสฉวน
คอนเท้นใหม่ๆจะเป็นฝ่ายอย่างเล่าเล่าเอี๋ยนซึ่งมาพร้อมกับความสามารถประจำฝ่ายอย่างการปั้นผู้สืบทอดให้ดีที่สุดเพื่อให้เสฉวนอยู่รอดต่อไป
โดยจะแบ่งระบบเป็นสองอันคือระบบแรก Aspiration การทำเควสพิเศษเพื่อทำให้เล่าเจี้ยงหรือทายาทของผู้เล่นได้รับบัพพิเศษต่างๆในฝ่ายเมื่อขึ้นเป็นผู้นำฝ่าย อย่างไรก็ตามหากทายาทของผู้เล่นขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายช้าจะทำให้ทายาทโดนดีบัพมหาศาลทำให้การทำเควสมีระยะเวลาที่จำกัด ส่วนระบบที่สอง Inheritance จะทำงานเมื่อทายาทขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายโดยจะเป็นการเลือกบัพพิเศษให้กับฝ่ายตัวเองในระยะเวลาหนึ่งซึ่งตัวเลือกบัพพเศษต่างๆก็จะปลดล็อคจากเควสในระบบ Aspiration จึงขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าเคลีย์เควสทั้งหมดเร็วแค่ไหนหรือจะเลือกทำแค่บางเควสและสละตำแหน่งผู้นำให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เล่าเจี้ยงโดนดีบัพ

สาเหตุที่ยังไม่ได้ซื้อก็มาจากคอนเท้นที่น้อยกว่า A World Betrayed ที่เพิ่มฝ่ายใหม่แค่ฝ่ายเดียว ส่วนในปี 200 แม้ว่าอาณาจักรส่วนใหญ่จะมีเขตแดนมากขึ้นซึ่งก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มเกมเพลย์มากขนาดนั้น ยังไม่นับความเผาของ Dlc ที่หลายๆฝ่ายไม่เควสหลักของตัวเองทำให้ความน่าซื้อของ Dlc ดูน้อยลงไปอีก
Dlc free
นอกจาก Dlc เสียเงินแล้วตัวเกมยังมาพร้อม Dlc free ซึ่งแถมมากับการอัพเดทในแต่ละแพทช์ ซึ่งสาเหตุที่แยกมาเป็น tire ฟรีเพราะ dlc free เป็นการอัพเดทฝ่ายใหม่ๆเข้ามาตามแพทช์ใหญ่ซึ่งมีคอนเท้นต่างจาก dlc ที่เสียเงินเลยลพการให้คะแนนไว้


โตเกี๋ยม
เป็นฝ่ายที่อัพเดทในช่วง Mandate of Heaven ระบบประจำฝ่ายจะมีลูกเล่นเกี่ยวกับการรับผู้อพยพเข้ามาในเมืองทำให้ได้รับโบนัสต่าง(ซึ่งผู้อพยพจะมีมากขึ้นจากการรบกันของฝ่ายต่างๆรอบของเรา)


เงียมแปะฮอ
เป็นฝ่ายโจรที่อัพเดทช่วง Dlc A World Betrayed เป็นฝ่ายโจรที่อยู่แดนใต้ซึ่งเหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองเล่นฝ่ายโจรอย่างมาก ระบบพิเศษจะเป็นการสร้างพันธมิตรกับฝ่ายต่างๆเพื่อรับโบนัสพิเศษ


ซือเซี่ย
เป็นฝ่ายที่อัพเดทช่วง Furious Wild เป็นฝ่าย Empire ที่อยู่แดนใต้ แต่ความยากอยู่ระดับ Hard เพราะซือเซี่ยมีดินแดนติดกับฝ่ายอื่นๆมากๆไม่ว่าจะม่านใต้หรือฝ่ายเวียดนามรวมถึงจะมีโจรสลัดมาปล้นฝ่ายเราอีกด้วย(และฝ่ายนี้ไม่มียูนิตพิเศษให้ใช้) ระบบพิเศษจะมีลูกเล่นเกี่ยวกับคนในตระกูลให้อยู่ในตำแหน่งสำคัญในสภาเพื่อรับแต้มพิเศษไปแลกหีบสมบัติซึ่งเป็นไอเทมชั่วคราวไว้ใส่ให้ตัวละคร
12 Comments
Setto  [author] 23 Oct, 2023 @ 9:08pm 
@Kralrambo Normally, I often play mods in the Total War Three kingdoms. I think this problem occurs when you play mods that don't create to work together. You can see in the description of the mod developers, are they explain the Player Only Economy Buff economy and Camera mod can work together. On the other hand this Player Only Economy Buff may have expired because the mod developer didn't update the version of the mod match to last the game version.
Kralrambo 7 Oct, 2023 @ 9:25am 
Hello, I am playing Total War Three Kingdoms, I am using mods via Steam; I use camera mode, it works, but the two modes I use are Campaign! Bigger Movement Range, Replenishment and more unlimited movement mode and Player Only Economy Buff economy mode are not working even though I have just registered, what should I do?
4bsolute__* 9 Jul, 2023 @ 1:24am 
ขอบคุณมากเลยครับ มีประโยชน์ มากครับ
Setto  [author] 5 Apr, 2023 @ 8:23am 
@Golf เรื่องไม่มี Mod ภาษาไทยจากที่เคยได้อ่านจากในคอมมูของคนไทยปัญหามาจากเอนนจิ้นเกมไม่ลองรับวรรณยุกษ์กับฟอนต์ของภาษาไทยครับ คงต้องรอเอนจิ้นใหม่ๆในอนาคตให้สามารถรองรับภาษาไทยได้ครับ
Golf 25 Mar, 2023 @ 6:25am 
อยากได้ mod ภาษาไทยไม่มีคนทำ
AJAY 12 Mar, 2023 @ 10:26am 
ขอบคุณมากๆเลยครับ:steamthumbsup:
Mr.Panda 28 Dec, 2022 @ 5:18am 
สุดยอดมากเลยครับ:steamhappy::steamhappy:
76561198008823467 10 Oct, 2022 @ 9:57am 
สุดยอดครับ ^_^
KaenPrukSa 27 Jul, 2022 @ 11:40pm 
ละเอียดมากเลยครับ ขอบคุณครับ
parot.pim 1 Jun, 2022 @ 5:10am 
ขอบคุณมากๆครับ