Terraria

Terraria

64 ratings
[TRR-TH] วิธีการเปิดเซิฟเวอร์
By aquablitz11
This guide is written in Thai, not English. Please do not complain that you can't read it. Thank you.

อันนี้เป็นไกด์สำหรับการเปิดเซิฟนะครับ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าเปิดยังไง Hamachi คืออะไร Port Forward คืออะไร จะขออธิบายอย่างละเอียดที่ไกด์นี้แหล่ะครับ อ่านแล้ว สงสัยอะไรถามได้น้อ และอย่าลืมเข้ากลุ่ม Terraria Community [TH] (Facebook Page[www.facebook.com]) ด้วยล่ะ
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
เกริ่นนำ
ใครๆก็รู้ว่า Terraria สามารถเล่นได้ทั้ง Single Player และ Multiplayer ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเล่น Single Player กันมาหมดแล้ว (แน่นอนล่ะ) ส่วน Multiplayer ก็อาจจะเข้าเซิฟเพื่อน ไม่ได้เปิดเองสักที ดังนั้น ไกด์นี้แหล่ะครับ จะสอนวิธีการเปิดเซิฟอย่างละเอียดที่นี่แหล่ะครับ ขอแค่มีคอมดีๆสักเครื่องก็พอแล้ว
สิ่งจำเป็น
จะเปิดเซิฟ ถ้าคิดจะเปิด ก็ต้องมีของที่จะใช้เหมือนกันครับ โดยมีดังนี้
  • คอมพิวเตอร์หรือเครื่องเซิฟเวอร์แรงๆ
  • อินเตอร์เน็ต
  • ตัวเปิดเซิฟ
  • ตัวเกม
  • Hamachi (ถ้าไม่ Forward Port)
  • Router (ยังไงๆมันก็มี เพราะต่อเน็ต แต่จะใช้อย่างเต็มที่ถ้า Forward Port)
วิธีการใช้งาน LogMeIn Hamachi
การสอนวิธีการใช้ Hamachi ที่นี่จะเป็นการสอนเพียงแค่ขั้นต้น โดยใช้ตัวโปรแกรมแบบ Unmanaged
ส่วนนี้เป็นส่วนสำหรับการเปิดเซิฟด้วย Hamachi นะครับ ถ้าไม่ได้จะเปิดวิธีนี้ ก็ข้ามท่อนนี้ไปได้เลยนะครับ แต่ถ้าเปิดเซิฟเวอร์โดยใช้ Hamachi อาจจะต้องอ่านเพื่อความเข้าใจในการใช้

การโหลด LogMeIn Hamachi
ลิงค์โหลด : คลิกที่นี่[secure.logmein.com]
สำหรับการโหลด LogMeIn Hamachi ให้ทำตามลำดับดังนี้ครับ

ขั้นที่ 1 คลิกให้เป็นเครื่องหมายติ๊กถูกเพื่อเป็นการยอมรับข้อบังคับใช้ของทาง LogMeIn ในเรื่องของข้อห้ามการใช้ในบางประเทศ แต่เราได้ยอมรับแล้ว เราจึงติ๊กถูกได้
ขั้นที่ 2 ดาวน์โหลดแบบ Unmanaged เนื่องจากว่าโหมด Managed จะเน้นไปทางด้านการจัดการการ Remote Control ของเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า และที่แน่ๆ ถ้าเป็น Unmanaged ไม่จำเป็นต้องสมัครครับ แต่ถ้าเป็นแบบ Managed คือเราสามารถจัดการเรื่องการสร้าง Network ของ Hamachi ได้ง่ายดายกว่าด้วย

การติดตั้ง LogMeIn Hamachi
หลังโหลดเสร็จแล้ว ให้เปิดไฟล์ติดตั้งขึ้นมาเพื่อทำการติดตั้งนะครับ

ขั้นที่ 1 ในหน้าต่างแรก จะให้เลือกภาษาในการใช้ LogMeIn Hamachi โดยแนะนำให้ใช้เป็นภาษาอังกฤษเพื่อความสะดวกในการอธิบายและการใช้งาน แล้วกด Next ไปซะ
ขั้นที่ 2 จะเป็นหน้าต้อนรับเข้าสู่การติดตั้งและข้อบังคับการใช้งานโปรแกรมของเขา เรื่องลิขสิทธิ์อะไรนั่นนั่นแหล่ะ ก็กด Next และ I agree ไป เพื่อถือว่าเป็นการยอมรับแล้ว
ขั้นที่ 3 หน้านี้จะให้ตั้งค่าว่าจะ Install โปรแกรมไว้ที่ไหน จะใช้แบบเดิมหรือแบบใหม่ก็ได้ครับ แล้วกด Install เพื่อเริ่มติดตั้งและรอกันเลย เมื่อเสร็จก็กด Launch Hamachi ขึ้นมา

การใช้ Hamachi
ขั้นที่ 1 เปิดขึ้นมาครั้งแรก มันจะบอกให้เราอนุญาตให้โปรแกรมทำงานก่อน เหมือนเปิดคอมอ่ะครับ โดยการกดที่ปุ่ม Power ของตัวโปรแกรมเลย เพื่อเริ่มทำงานครับ
ขั้นที่ 2 ตัวโปรแกรมจะให้เราตั้งชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราที่จะให้แสดงต่อเพื่อนเราที่จะเข้ามานั่นเองนะครับ โดยให้ตั้งชื่อที่เพื่อนๆรู้จักกันดี แล้วกด Create (สามารถเปลี่ยนชื่อทีหลังได้)
ขั้นที่ 3 หลังตั้งชื่อเสร็จ ตัวโปรแกรมจะอนุญาตให้ใช้งานได้ คือเราสามารถสร้าง Network เองได้หรือเข้าไปร่วม Network ของเพื่อนเพื่อเล่นในเซิฟได้นะครับ

การ Create Network ใหม่
ถ้าไม่อยากไปพึ่ง Network ของเพื่อน เราก็สามารถสร้างเองแล้วให้เพื่อนเข้ามา Join แล้วเล่นด้วยกันได้ แต่ข้อแม้คือ ถ้าไม่ได้อัพเกรด ก็ได้เพียงแค่ Network ละ 5 เครื่องเท่านั้นนะครับ

ขั้นที่ 1 ไปทีแท็บ Network ข้างบนแล้วเลือก Create a new network...
ขั้นที่ 2 ให้ตั้งชื่อ Network พร้อมกับรหัสนะครับ เพื่อให้เพื่อนเข้ามาได้
ขั้นที่ 3 สร้างเสร็จแล้วก็คือ ได้เลยครับ ให้เพื่อนเข้ามาร่วมใน Network ได้เลย

การ Join Network ของเพื่อน (หรือให้เพื่อนเข้ามา)
ถ้าจะให้เพื่อนเข้ามาใน Network ของเรา หรือเราจะเข้า Network ของเพื่อน ให้ทำดังนี้ครับ

ขั้นที่ 1 ไปที่แท็บ Network ข้างบนแล้วเลือก Join an existing network...
ขั้นที่ 2 ใส่ Network ID กับ Password ของ Network ที่เพื่อนสร้าง แล้วเข้าไปได้เลยครับ

การให้ IP เพื่อนที่จะเข้ามาเล่น
สามารถดู IP ของ Hamachi ได้จากตัวโปรแกรมเลยครับ ใกล้ๆปุ่ม Power (25.X.X.X)
วิธีการ Port Forward
ส่วนนี้สำหรับผู้ที่จะเปิดเซิฟโดยใช้ IP แท้ของตนเองและ Forward Port เพียงเท่านั้น หากต้องการจะใช้ Hamachi ไม่จำเป็นจะต้องใช้ส่วนนี้นะครับ

คำจำกัดความ
สำหรับส่วนเรื่องการ Forward Port จะยากนิดนึงและอาจจะเข้าใจคำพูดแตกต่างกันไป จึงขอคำเฉพาะบางคำที่ใช้ในไกด์นี้ เพื่อให้เข้าใจในความหมายและนิยามของคำนั้นๆในไกด์นี้นะครับ

LAN ย่อมาจากคำว่า Local Area Network ซึ่งหมายถึง Network ภายในวง Router เดียวกันนะครับ เช่น ภายในบ้านเดียวกัน ถ้าเครื่องคอมใช้เน็ตจาก Router เดียวกับโน๊ตบุ๊ค นับเป็นวงแลนเดียวกันครับ
WAN ย่อมาจาก Wide Area Network ก็คือ Network อินเทอร์เน็ตทั้งโลกนี้ครับ
Router เครื่อง Router ที่ใช้ในการต่ออินเทอร์เน็ต แต่มีส่วนในการแบ่ง IP ให้กับเครื่องที่ใช้ Router นั้นด้วย ทำหน้าที่เหมือนทางผ่าน (Gateway)

IP ตัวเลขที่ใช้ระบุเครื่อง Client แต่ละเครื่อง แบ่งได้อีกคือ
  • LAN IP คือ IP ของเครื่องแต่ละเครื่องในวงแลน (ดังภาพบนที่อธิบาย เช่น โทรศัพท์ โน๊ตบุ๊ค)
  • WAN IP คือ IP ของทั้งโลก คือ IP บนโลกอินเทอร์เน็ตนั่นเอง ซึ่งเปลี่ยนไปตลอดเรื่อยๆทุกครั้งที่เปิด Router
  • Default Gateway คือ IP ของทางผ่านหลัก ทางแยก ซึ่งก็คือเครื่อง Router นั่นเอง
  • Dynamic IP คือ IP ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาล คือการเปิดปิด Router แต่ละครั้ง ซึ่งมีผลใน WAN IP มากที่สุด และไม่สามารถแก้ไขได้ ส่วน LAN IP จะทำหน้าที่เป็น DHCP Server คือคอยส่ง IP ใหม่ให้เครื่อง Client เรื่อยๆ ในแต่ละครั้งที่ใช้งาน
  • Static IP คือ IP ที่คงทนในตัวเลขนั้น จะมีผลใน LAN IP คือ สามารถ Fix ให้เครื่องใดๆเป็น IP ที่ต้องการได้ ไม่เปลี่ยนแปลง

Server เครื่องที่ทำงานเป็นเซิฟเวอร์ให้มีเครื่อง Client สามารถส่งข้อมูลมาได้ (เกี่ยวข้องกับ Terraria ในส่วนว่า ตัวละครเดิน ก็จะส่งข้อมูลมา และ Server จะส่งให้ผู้เล่นทุกคนเห็น) และรวมถึงตัวเครื่อง Router เองซึ่งเป็นส่วนที่ให้เราต่อเข้าไป
Client เครื่องลูกข่ายที่ต่อเข้ามาที่ Server และรวมถึงเป็นลูกข่ายของ Router ด้วย
Port หมายเลขเส้นทางที่ Client สามารถต่อเข้ามาที่ Server ได้ (เหมือนถนน)
Forward Port เหมือนเป็นการเปิดถนน เพื่ออนุญาตให้เข้ามาได้

การเข้าสู่ Router
เป็นขั้นแรกของการเข้าใช้วงแลนอย่างเต็มที่เลยนะครับ โดยสิ่งที่ต้องรู้เพื่อจะเข้าหลักๆเลย ได้แก่
  • Router IP (Default Gateway)
  • Router Username
  • Router Password

Router IP
ขั้นที่ 1 Run Command Prompt ขึ้นมา (cmd.exe)
ขั้นที่ 2 พิมพ์ว่า ipconfig เพื่อให้แสดงผลในเรื่อง IP ของเครื่อง Client ขณะนี้
ขั้นที่ 3 หาในส่วนของ Network ที่เราเข้าใช้งานอยู่ เช่นรูปตัวอย่างใช้การต่อ Wifi จึงหาในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ขั้นที่ 4 หา IP ของ Default Gateway (ส่วนใหญ่เป็น 192.168.1.1 แต่ในรูปเป็น 50.0.0.101)

Router Username/Password
ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับผู้ที่ตั้งค่า Router ให้แต่แรก เช่น ผู้ที่มาติดตั้งเน็ตและต่อ Router ให้ โดยอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ว่าแต่ละที่ (พวก ISP) จะตั้งรหัสเหมือนๆกันไว้ให้ ดังนี้

Triple T Broadbrand (3BB)
Username: admin
Password: 3bb

TOT
Username: admin
Password: tot

True Billion Sky
Username: admin
Password: password

True Zyxel
Username: admin
Password: 1234 / admin

True บางรุ่น
Username: true
Password: true

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดนี้ อาจจะไม่ถูกต้อง เพราะผมก็ไม่ได้ใช้ในหลายๆ ISP เหมือนกัน ลองไปหาดูกันเองอีกทีแล้วกันนะครับ แต่ถ้า Router มีคนตั้งรหัสใหม่ไว้แล้ว ต้องถามคนตั้ง หรือถ้าคุณตั้งเอง คุณก็ใช้รหัสที่คุณเคยตั้งไว้นะครับ

เข้าสู่ Router
ขั้นที่ 1 เปิด Internet Browser ขึ้นมา (เช่น IE, Firefox, Chrome)
ขั้นที่ 2 ใส่ URL เป็น Router IP (เช่น 192.168.1.1)
ขั้นที่ 3 จะมีถามให้ใส่ Username กับ Password ให้ใส่ให้ถูกต้อง

เริ่มต้น Port forward
Router แต่ละรุ่นอาจจะมีรูปแบบการตั้งค่าแตกต่างกัน แต่ให้ลองสำรวจดูแล้วจะได้ในแบบรูปนี้นะครับ

ขั้นที่ 1 เข้าไปในแท็บ Advanced Setup
ขั้นที่ 2 เข้าไปที่ส่วนของ NAT
ขั้นที่ 3 ไปที่ Virtual Server เพื่อตั้งค่า Port forward
ขั้นที่ 4 ตั้งค่าการ Port Forward แต่ละหัวข้อแล้วกด Save ดังนี้

  • Rule Index ลำดับการ Port Forward (ใดๆก็ได้)
  • Application เป็นเพียงแค่การตั้งชื่อให้เข้าใจง่าย แต่ควรจะตั้งว่า Terraria
  • Protocol รูปแบบของ Port ในที่นี้ให้ตั้งเป็นทั้ง TCP และ UDP
  • Start Port Number ช่วงเริ่มต้นของ Port ที่จะให้คนเข้ามา (WAN)
  • End Port Number ช่วงสิ้นสุดของ Port ที่จะให้คนเข้ามา (WAN)
  • Local IP Address LAN IP ของเครื่องที่จะให้ Port Forward (IPv4 Address จาก cmd.exe)
  • Start Port Number (Local) ช่วงเริ่มต้นของ Port ที่จะให้คนเข้ามา (LAN)
  • End Port Number (Local) ช่วงสิ้นสุดของ Port ที่จะให้คนเข้ามา (LAN)

แนะนำให้ตั้งค่า Port ทั้งหมดเป็น 7777 เนื่องจากเป็น Default Port ของ Terraria และถ้าหากมี SNMP อยู่ในลิสต์ Forward Port อยู่แล้ว ไม่ควรลบออก


ภาพนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง ส่วน IP / Port อาจจะเปลี่ยนแตกต่างกันไป

การให้ IP เพื่อนที่จะเข้ามาเล่น
IP ของเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกวัน แต่สามารถดูได้ตามเว็บ What's my IP?[www.whatsmyip.org] ได้เลยครับ แต่ถ้าบางคนขี้เกียจให้แบบนี้ ก็อาจจะให้เป็น Hostname หรือ Domain ที่ตัวเองมีอยู่แล้ว เช่น Hostname ฟรีๆของ No-ip[www.noip.com] หรือคิดเงินอย่าง DynDNS[dyn.com] ก็ได้ครับ แล้วแต่ความสะดวกแต่ละคน

(เพิ่มเติม) เปลี่ยน LAN IP เป็น Static IP
ปกติแล้ว นอกจากที่ WAN IP ของเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกครั้ง LAN IP ก็อาจจะเปลี่ยนขึ้นอยู่กับช่วงเวลาได้ แต่การ Forward Port จำเป็นจะต้องระบุ IP ของเครื่องที่จะให้ทำงาน จึงจะต้องเปลี่ยนตามเรื่อยๆหาก LAN IP เราเปลี่ยน ดังนั้น ควรจะเปลี่ยนให้ LAN IP ของเรา Fix ไว้คงทนตลอดเวลา

อย่างแรกคือ ตั้งค่าให้ Router เปลี่ยนเรื่อง DHCP Server ใหม่ เพราะ IP แบบสุ่มอาจจะสุ่มของเครื่องอื่นตรงกับ IP ของเราที่เราใช้งานอยุ่จึงทำให้เครื่องอื่นใช้งานไม่ได้ โดยตัวอย่างนี้จะสมมุติให้ Router IP คือ 192.168.1.1 และ DHCP Server เริ่มที่ 192.168.1.2 แต่ต้องการเปลี่ยนเป็น 192.168.1.3 เพื่อเว้นช่อง 192.168.1.2 ให้เป็น Static IP ของเครื่องที่จะเปิดเซิฟเวอร์ ก็เพียงแค่เปลี่ยนค่า 192.168.1.2 เป็น 192.168.1.3 เพียงเท่านั้น (ปกติแล้ว Router บางเครื่องตั้งเริ่มต้นไว้ที่ 192.168.1.33 เราก็สามารถเปลี่ยนคืนเป็น 192.168.1.2 และย้ายเป็น 192.168.1.3 ได้)

อย่างที่สองคือจะต้องตั้งค่าที่ตัวเครื่องเองว่าให้ใช้ IP เป็น 192.168.1.2 เพื่อให้ Fix ไว้ ทำได้ดังนี้
ขั้นที่ 1 พิมพ์เข้าไปในช่อง Search แล้วเข้าไปที่ Network Connections เลย (Windows 7 คงรู้กันดี เพราะมีอยูตรง Start Menu ใกล้ๆกับ Shutdown นั่นแหล่ะ)
ขั้นที่ 2 เลือก Network ที่เราใช้งานอยู่ เช่นบางคนใช้สายแลนต่อเข้า Router ก็น่าจะเป็น Local Area Connection หรือบางคนเป็นโน๊ตบุ๊คใช้ Wireless Network Connections ให้คลิกขวาเข้า Properties ไป
ขั้นที่ 3 เลือก Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4) แล้วกด Properties
ขั้นที่ 4 ตั้งค่าเป็น Use the following IP address แล้วใส่ IP Address ดังนี้
  • IP address : 192.168.1.2
  • Subnet mask : 255.255.255.0
  • Default gateway : 192.168.1.1
ขั้นที่ 5 ตั้งค่า DNS Server ให้ถูกต้อง โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ ที่หามา เช่น
  • 3BB - 110.164.252.222 & 110.164.252.223
  • True - 203.144.207.29 & 203.144.207.49
  • Google - 8.8.8.8 & 8.8.4.4 (ใช้ได้ทุกค่ายเน็ต)

ในส่วนเพิ่มเติมนี้ หากทำผิดพลาดอาจจะก่อผลเสียได้ ดังนั้น ขอให้มั่นใจจริงๆก่อนทำ และโน๊ตในส่วนของการตตั้งค่า LAN IP ในตัวเครื่อง หากไปใช้ต่อเน็ตที่อื่น จะต้องตั้งค่าคืนกลับเป็นแบบเดิม เนื่องจากว่า เน็ตทางที่อื่นอาจจะมีรูปแบบ IP เป็น Dynamic IP หรืออาจจะใช้ Static IP คนละ IP ก็เป็นได้
วิธีการเปิดเซิฟแบบ Host & Play
ในที่สุดก็ได้เข้าถึงวิธีการเปิดเซิฟแบบ Host & Play สักทีนะครับ โดยวิธีการเปิดแบบนี้ สามารถทำได้โดยแค่เปิดผ่านตัวเกมโดยตรง แต่ต้องใช้การ Port Forward และถ้าจะเปิดวิธีนี้ ตัวเครื่องที่เปิดต้องใช้เกมแท้เท่านั้น บวกด้วยวิธีเปิดนี้ จะไม่สามารถทำในหลายๆอย่างได้ เช่น การเตะ การแบน แต่จะเป็นเหมือนเพียงแค่การเล่นแบบ Single Player และถ้าคุณออกเซิฟเมื่อไหร่ จะถือว่าเป็นการปิดเซิฟทันที จึงมีคนนิยมเปิดวิธีนี้น้อยหรืออาจจะเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ได้ แต่สามารถทำได้ในเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งถ้าใครอยากจะลองวิธีนี้ดู ขอให้รู้ไว้อีกทีคือ เฉพาะ Port Forward และของแท้เท่านั้นที่เปิดเซิฟในวิธีนี้ได้



ขั้นที่ 1 ทำการ Port Forward ก่อน (ดูได้ในหัวข้อก่อนหน้านี้)
ขั้นที่ 2 เปิดตัวเกม (ของแท้) ขึ้นมา
ขั้นที่ 3 เข้าในส่วนของ Multiplayer แล้วไปที่ Host & Play
ขั้นที่ 4 เลือกตัวละครที่จะใช้เล่นและโลกที่ต้องการจะเปิดเซิฟ
ขั้นที่ 5 ใส่รหัสเข้าเซิฟ (เผื่อกันเกรียนรู้ไอพีเข้ามา)
ขั้นที่ 6 เปิดได้เลย!
วิธีปิด ปิดได้เพียงแค่กด Disconnect ออกเซิฟเท่านั้น

จะเห็นว่าง่ายมากเลยนะครับ แต่ประโยชน์จากมันจะน้อยนิด ^^
วิธีการเปิดเซิฟเวอร์ด้วย Dedicated Server
Originally posted by Dictionary:
Dedicated [adj.] ซึ่งอุทิศตัวเพื่อ
ความหมายอื่นๆ : ที่กำหนดใช้ในทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะ
คำความหมายเดียวกัน : blessed; involved

ก็อย่างว่าล่ะครับ Dedicated Server คือโปรแกรมที่เน้นไปทางการเปิดเซิฟแน่นอน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเล่นใดๆทั้งสิ้นนะครับ ถ้าจะเล่นต้อง Join เข้าผ่านตัวเกมอีกทีนึง ซึ่งวิธีการเปิดด้วย Dedicated Server จะดีกว่า Host & Play ที่มี Command เล็กๆน้อยๆ ให้ได้ใช้เพื่อความสะดวกในการเปิดเซิฟ เช่น การเตะคนออก แบน อะไรประมาณนี้นะครับ และวิธีนี้สามารถใช้ได้กับ Hamachi และเกม Terraria ของเถื่อนที่เห็นให้โหลดกันตามเว็บต่างๆด้วย (Trololololol) โดยมีวิธีเปิดดังนี้ครับ

ขั้นที่ 1 โหลดตัวโปรแกรม Dedicated Server ได้ที่ด้านล่างของเว็บ http://terraria.org/
ขั้นที่ 2 รันไฟล์ TerrariaServer.exe ขึ้นมา
ขั้นที่ 3 ใส่ World ที่ต้องการจะให้เปิดเซิฟโดยการพิมพ์ตัวเลข
ขั้นที่ 4 กำหนดจำนวนผู้เล่นสูงสุด โดยการใส่ตัวเลข หรือกด Enter เลยเพื่อให้ตั้งเป็น 8 คน (Max: 255)
ขั้นที่ 5 ระบุ Port ที่ต้องการจะเปิดเซิฟเวอร์ (กด Enter จะตั้งเป็น 7777)
ขั้นที่ 6 Port Forward ด้วย uPnP อัตโนมัติหรือไม่ (ปกติมันไม่ทำงานหรอก Port Forward เองดีกว่า)
ขั้นที่ 7 ตั้งค่ารหัสเข้าเซิฟ ป้องกันเกรียนรู้ไอพีแล้วเข้า ถ้าไม่ตั้งกด Enter ไปเลย

แค่นี้ตัวเซิฟ Dedicated Server ก็จะเปิดขึ้นมา ห้ามปิดหน้าต่างนี้เป็นอันขาด เพราะจะเป็นการปิดเซิฟแบบไม่ได้เซฟ ต้องใช้วิธีปิดเซิฟแบบถูกต้องเท่านั้น โดยการพิมพ์ว่า "exit" ในหน้าต่าง Dedicated Server

Dedicated Server ก็มี Command อื่นๆเหมือนกัน ซึ่งอาจจะมีประโยชน์น้อย แต่ก็ใช้ได้กว่า Host & Play ดังนี้
  • help - แสดง Command ทั้งหมดในตัวเปิดเซิฟ (เผื่อขี้เกียจอ่านตรงนี้)
  • playing - รายชื่อผู้เล่นที่เข้าเซิฟขณะนี้ พร้อมนับจำนวน (สามารถพิมพ์ว่า /playing ในตัวเกมได้)
  • clear - เตลียร์หน้าต่าง Dedicated Server
  • exit - ปิดเซิฟอย่างถูกต้อง
  • exit-nosave - ปิดเซิฟโดยไม่เซฟโลก (หลังจากการเซฟครั้งสุดท้าย)
  • save - เซฟโลกที่เปิดเซิฟทันที
  • kick <player> - เตะคนออกจากเซิฟ (แทนคำว่า <player> เป็นชื่อภายในเกม)
  • ban <player> - แบนคนไม่ให้เข้าเซิฟอีกตลอดไป (แทนคำว่า <player> เป็นชื่อภายในเกม)
  • password - แสดงรหัสผ่าน เผื่อลืม
  • password <player> - แก้ไขรหัสผ่านกันเกรียนเข้าเซิฟ (แทนคำว่า <player> เป็นชื่อภายในเกม)
  • version - แสดงเวอร์ชั่นของเซิฟเวอร์
  • time - แสดงเวลาภายในเกม
  • port - แสดง Port ที่เซิฟเวอร์ใช้งานอยู่
  • maxplayers - แสดงจำนวนผู้เล่นมากที่สุดที่ได้ตั้งค่าไว้
  • say <words> - แสดงคำพูดให้ทุกคนในเซิฟเห็น (แทนคำว่า <words> เป็นคำที่ต้องการให้แสดง)
  • motd - แสดง MOTD ที่ตั้งไว้ (MOTD = คำที่แสดงขึ้นมาตอนเข้าเซิฟใหม่)
  • motd <words> - เปลี่ยน MOTD (แทนคำว่า <words> เป็นคำที่ต้องการให้แสดง)
  • dawn - ตั้งเวลาในเซิฟเป็นตอนเช้า (4:30AM)
  • noon - ตั้งเวลาในเซิฟเป็นตอนเที่ยง (12:00PM)
  • dusk - ตั้งเวลาในเกมเป็นตอนกลางคืน (7:30PM)
  • midnight - ตั้งเวลาในเกมเป็นตอนเที่ยงคืน (12:00AM)
  • settle - ทำให้น้ำลาวาและน้ำผึ้งทั้งหมดในโลกรีบตกลงไปอย่างรวดเร็ว (ใช้ได้ในเวลาที่เวลาขุดเยอะๆและพวกน้ำมันค้าง ลงมาช้า จะทำให้เซิฟทำให้น้ำหยุดชะงักไว้แลว้คิดคำนวณว่ามันน่าจะตกไปที่ไหน แล้วก็จะส่งน้ำไปที่นั่น เหมือนเร่งเวลา)

วิธีการ Unban คนที่ Ban ไปแล้ว
หลังแบนแล้ว ไฟล์เซิฟเวอร์จะสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมาคือไฟล์ banlist.txt ซึ่งจะเก็บไว้ในโฟล์เดอร์ที่มีไฟล์เปิดเซิฟ วิธี Unban ก็คือเข้าไปลบเฉพาะบางคนออกเท่าน้ัน แต่ถ้าต้องการ Unban ทุกคนหมด ก็แค่ลบไฟล์นี้ทิ้ง
เปิดเซิฟเวอร์ Dedicated Server โดยใช้ Configuration File
นอกจากการใช้ Dedicated Server แล้วนั่งพิมพ์ว่าจะเอาตัวเลขด่านไหนแล้ว ยังสามารถกำหนดให้เปิดด่านขึ้นมาได้อัตโนมัติหลังเปิดไฟล์ทันทีนะครับ ซึ่งหลายคนเคยลอง start-server.bat มาแล้วล่ะ แต่ก็ยังไม่รู้สินะ...

start-server.bat คือ...
สำหรับไฟล์นี้ หลายคนคิดว่าถ้าเปิดเซิฟ จะรันไฟล์นี้หรือไฟล์ TerrariaServer.exe ก็ได้ แต่เจ้าตัวนี้ ถ้าพิมพ์ exit ปิดเซิฟ มันจะให้เราเลือก Restart server ได้ด้วย... แต่คิดว่ามีแค่นี้น่ะหรอ?
ความจริิงแล้ว ตัวนี้จะเป็นตัวรัน TerrariaServer.exe แต่มีการตั้งค่าตามไฟล์ serverconfig.txt ให้อีกที เพื่อจะได้เปิดแบบไว แบบว่า กำหนดไว้ว่าถ้าเปิดให้เปิดด่านนี้เลย ถ้ารันปุ๊บ มันก็เปิดตรงนี้ให้ ไม่ต้องนั่งพิมพ์เลขอีก หรือไม่เราก็สร้างไฟล์นี้ขึ้นมาเองซะเลย หรือไม่ก็ใช้อีกวิธีนึง จะระบุตามข้างล่างนี้ครับ

สำหรับวิธีนี้ มีให้อยู่ 3 วิธี ตามนี้นะครับ...
  • รันผ่าน start-server.bat โดยใช้ serverconfig.txt เป็นตัวตั้งค่าอัตโนมัติ
  • สร้างไฟล์ Batch เอง โดยเลือกรัน Server configuration file ดั้งเดิมหรือใช้การตั้งค่าโดยตรง
  • รันผ่าน Shortcut โดยใส่การตั้งค่าไว้โดยตรงหรือใช้ไฟล์ Configuration

วิธีแรก : start-server.bat

โค้ดของไฟล์ Batch นี้
@echo off cls :start TerrariaServer.exe -config serverconfig.txt @echo. @echo Restarting server... @echo. goto start
จะเป็นการรันไฟล์ TerrariaServer.exe ที่อยู่ในโฟล์เดอร์เดียวกับ start-server.bat ที่มีอยู่ (ห้ามแยกกัน) โดยจะใช้ไฟล์ serverconfig.txt เป็น Server Configuration หรือ การตั้งค่าเซิฟเวอร์ ซึ่งในส่วนของ Server Configuration จะอธิบายไว้ในอีกหัวข้อ

วิธีที่สอง : สร้างไฟล์ Batch เอง
มีไว้สำหรับการเลือก Server Configuration ไฟล์อื่น หรือแยกตัวเซิฟเวอร์ไว้อีกที่ หรืออาจจะไม่ตั้งค่า Server Configuration แต่ใช้การตั้งค่าด้วย Command Line โดยตรงเลย มีวิธีดังนี้

1. เปิดโปรแกรมเขียนขึ้นมา
เพื่อการเขียนโค้ด Batch File ซึ่งอาจจะใช้ Notepad เปล่าๆ หรืออาจจะใช้ Notepad++ เพื่อความสะดวก

2. เขียนโค้ดเบื้องต้นลงไป
@echo off cls TerrariaServer.exe -config serverconfig.txt

3. ทำการปรับแต่งโค้ค
แนะแนวทางในการปรับแต่งโค้ดดังนี้
  • แก้ไขที่อยู่ TerrariaServer.exe ให้ละเอียด หากแยกไปไว้คนละที่ เช่น แยกไปไว้ที่ D:\Game\Terraria\Server ก็ให้แทนคำว่า TerrariaServer.exe เป็น D:\Game\Terraria\Server\TerrariaServer.exe เพื่อให้รันไฟล์อย่างถูกต้อง
  • ถ้าชื่อโปรแกรมเปิดเซิฟไม่ใช่ TerrariaServer ก็ให้เปลี่ยนตามให้ถูกต้อง
  • ใส่การตั้งค่า Configuration File ไว้โดยใส่คำว่า -config ตามด้วยไฟล์ที่ใช้เป็น Configuration File ซึ่งหากอยู่คนละที่กับไฟล์ Batch นี้ต้องใส่ให้ละเอียด (ตัวอย่างข้อ 2 ชื่อไฟล์ว่า serverconfig.txt) และอย่าลืมตั้งค่า Configuration File ที่ใช้ให้ถูกต้อง ซึ่งจะอธิบายในหัวข้อถัดไป
  • หากไม่ใช้ Configuration File ให้ใส่โค้ด Command Line Parameters ลงไปแทนส่วนของ -config ซึ่งตัวอย่างการใส่โค้ดจะอธิบายไว้ในหัวข้อถัดไป

4. เซฟไฟล์ Batch เก็บไว้ในที่ๆสะดวกต่อการเปิดเซิฟเวอร์ในนามสกุล .bat ไม่ใช่ .txt
ถ้าใครใช้ Notepad จะมีวิธีง่ายๆ ก็คือ ตอนเซฟ ให้เปลี่ยนส่วนนามสกุลเป็น All Files แล้วใส่นามสกุลต่อท้ายชื่อไฟล์ที่เซฟ เช่นเซฟไฟล์ Batch ชื่อว่า ServerOpen.bat เป็นต้น

วิธีที่สาม : สร้าง Shortcut เอง
จะคล้ายๆกับการสร้าง Batch File ในส่วนบรรทัดสุดท้ายตามตัวอย่างโค้ดของวิธีที่ 2 คือระบุสถานที่ของไฟล์ที่จะเปิดเซิฟ และใส่การตั้งค่าลงไป โดยสามารถทำได้โดยวิธีดังนี้

1. สร้างไฟล์ Shortcut ขึ้นมาก่อน
คล้ายๆกับการสร้างโฟล์เดอร์คือ คลิกขวา >> New >> Shortcut นั่นแหล่ะ
แล้วจะมีให้ใส่ข้อมูล ตามขั้นตอนต่อๆไป

2. ตั้งค่าสถานที่ไฟล์เซิฟที่ต้องการให้เปิด
สมมุติว่าไฟล์ตัวเปิดเซิฟชื่อ TerrariaServer.exe เก็บไว้ที่ D:\Terraria\ServerExample
ให้ใส่ชื่อไฟล์เป็น D:\Terraria\ServerExample\TerrariaServer.exe ก็จะเป็นการสร้าง Shortcut ทันที
แต่ยังไม่จบ... อย่าเพิ่งกด Next

3. ใส่คำตามหลัง เหมือนการสร้าง Batch File
ถ้าใช้ Configuration File ให้ใส่ตามหลังอีกว่า -config <ชื่อไฟล์ที่ใช้>
แต่ถ้าใช้ Command Line Parameters จะอธิบายในส่วนต่อไป ว่าให้ใส่อย่างไร

4. กด Next แล้วตั้งคำแสดงให้เสร็จ แล้วก็เสร็จ
ชื่อแสดง ก็เหมือนชื่อไฟล์ทั่วไปนั่นแหล่ะ แบบให้เข้าใจง่ายไง เช่น ตั้งคำว่า "ตัวเปิดเซิฟ" ไว้ตรง Desktop เงี้ย

วิธีการตั้งค่า Configuration File
สำหรับการตั้งค่า Configuration File หรือไฟล์ serverconfig.txt ที่มากับ start-server.bat เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ห้ามทำผิด มิฉะนั้นจะไม่สามารถเปิดเซิฟเวอร์ได้ ซึ่งจะขออธิบายจากไฟล์ serverconfig.txt และขอแนะนำทุกคนที่จะใช้ Configuration File ให้ใช้วิธีปรับแต่งจาก serverconfig.txt เอา ดังนี้

ช่วงบรรทัดต้นๆ จะเป็นการอธิบาย Command Line Parameters ว่าแต่ละอย่างเป็นอย่างไร ซึ่งจะขออธิบายในหัวข้อถัดไป แต่ในส่วน Configuration File จะเริ่มตั้งแต่บรรทัดที่ว่า
#Set’s the max number of players allowed on a server. Value must be between 1 and 255
ซึ่งบรรทัดที่มีการอนุญาตให้ปรับแต่งได้ ที่ต้องการจะตั้งค่า ต้องถอดเครื่องหมาย # ออก มิฉะนั้นเซิฟเวอร์จะไม่สนใจบรรทัดนั้น และเครื่องหมาย # จะต้องใส่นำหน้าคำอธิบายตลอด ดังข้างบนนี้ (#Set's the max...)

ค่าที่ต้องแก้ไข
อธิบาย
world=C:\Users\Defaults\My Documents\My Games\Terraria\Worlds\world1.wld
เปิดโลกอัตโนมัติทันทีที่เปิดตัวเซิฟขึ้นมา ต้องตั้งค่าสถานที่อย่างละเอียด และหากใช้โฟล์เดอร์เก็บโลกเดิม อย่าลืมใส่ตรง Defaults เป็นอย่างอื่นตามชื่อ User ในคอม และใส่ชื่อไฟล์เซฟโลกที่ถูกต้องแทน world1 ด้วย
maxplayers=8
ค่าจำนวนผู้เล่นที่อนุญาตให้เข้าในเซิฟเวอร์ได้ ต้องอยู่ระหว่าง 1 ถึง 255 เท่านั้น
port=7777
Port ที่จะใช้เปิดเซิฟเวอร์
password=p@55w0rd
รหัสเซิฟเวอร์
motd=Please don’t cut the purple trees!
คำที่จะแสดงให้เห็นตอนเข้าเซิฟเวอร์
worldpath=C:\Users\Defaults\My Documents\My Games\Terraria\Worlds\
สถานที่เก็บไฟล์เซฟโลก ซึ่งไม่จำเป็นต้องตั้งค่า หากใช้วิธีการเปิดเซิฟแบบเปิดโลกอัตโนมัติ หรือจะใช้ที่อยู่เก็บโลกเดิม โดยหากจะตั้งค่าแต่เป็นที่เดิม ต้องใส่ตรง Defaults เป็นอย่างอื่นตามชื่อ User ในคอม
autocreate=3
สร้างโลกอัตโนมัติตาม World Path ที่กำหนด หากไม่มีโลกอยู่สักโลก ซึ่งส่วนนี้เป็นการตั้งค่าขนาดโลกที่จะสร้าง คือ 1 = Small , 2 = Medium , 3 = Large
worldname=World
สร้างโลกอัตโนมัติเช่นกัน โดยจะเป็นชื่อโลกที่จะสร้าง
banlist=banlist.txt
สถานที่ของ Banlist ที่จะเก็บไว้ ซึ่งหากไม่ได้อยู่โฟล์เดอร์เดียวกันต้องระบุอย่างละเอียด หรือไม่ต้องระบุหากจะใช้ที่ตามค่าปกติ
secure=1
ระบบป้องกันการโกง ซึ่งไม่ค่อยป้องกันได้ดีมาก หรือป้องกันผิดพลาด ให้ใส่ค่าเป็น 1 หากต้องการจะเปิด ใส่ค่าเป็น 0 หากจะปิด
lang=1
ภาษาที่ใช้ในการเปิดเซิฟเวอร์ โดยมีค่า 1-5 เรียงคือ อังกฤษ, เยอรมัน, อิตตาลี่, ฝรั่งเศส, สเปน
upnp=1
การเปิดเซิฟโดยใช้ uPnP ในการ Port Forward อัตโนมัติ (ไม่ได้ช่วยอะไรเลย...)
npcstream=60
ระบบดีเลย์การส่งข้อมูล เพื่อความสวยงาม และดูสมูท (แบบว่ามอนส์ไม่วาร์ปอ่ะ) โดยหากค่าน้อย หรือลงเป็น 0 คือไม่มีดีเลย์ หากมากจะดีเลย์มาก แต่ยิ่งค่าน้อยเท่าไหร่ จะมีการรับส่งข้อมูลมาก และกินสเปคคอมสูงขึ้น
priority=1
ค่าความสำคัญของเซิฟเวอร์ที่รันในคอม คือ หากโปรแกรมที่ตั้งความสำคัญไว้สูง จะเน้นการทำงานส่วนนั้นให้ดีก่อน ส่วนที่รองลงมาค่อยเน้น โดยมีการตั้งค่าเลข 0-6 คือ Realtime, High, AboveNormal, Normal, BelowNormal, Idle (ส่วนนี้ต้องตั้งค่า ห้ามใส่เครื่องหมาย # ไว้)

เสร็จแล้วให้ทำการเซฟไฟล์ เป็นอันเสร็จสิ้น

Command Line Parameters
จะใส่แทน -config serverconfig.txt เป็นอย่างอื่น ซึ่งต้องพิมพ์เยอะกว่า แต่อาจจะง่ายกว่าการเข้าใจการตั้งค่า serverconfig.txt ก็ได้ แต่บังคับว่าต้องใช้กับ Batch ที่สร้างเอง หรือ Shortcut โดยหากอันใดไม่ตั้งค่า ไม่ต้องเขียนลงไป โดยมีดังต่อไปนี้ (ใส่ขีดข้างหน้าด้วยนะ เวลาพิมพ์ อย่างที่เห็นอ่ะ)

Command
อธิบาย
-port เลข
ตั้งค่าพอร์ทเพื่อเลือกหมายเลขอัตโนมัติตอนเปิดเซิฟเวอร์อัตโนมัติ
-players จำนวน / -maxplayers จำนวน
กำหนดจำนวนผู้เล่นมากที่สุดอัตโนมัติตอนเปิดเซิฟเวอร์อัตโนมัติ
-pass รหัส / -password รหัส
ตั้งค่ารหัสผ่านเข้าเซิฟเวอร์ตอนเปิดเซิฟเวอร์อัตโนมัติ
-world ไฟล์
เปิดโลกเซิฟเวอร์อัตโนมัติ โดยจะเปิดตามไฟล์ที่กำหนด ให้กำหนดสถานที่ของไฟล์อย่างละเอียด
-autocreate เลข
สร้างโลกอัตโนมัติเมื่อไม่มีโลกให้เลือก โดยเลขจะให้ใส่ขนาดคือ 1 = Small, 2 = Medium, 3 = Large
-banlist ไฟล์
กำหนดไฟล์แบนลิสต์ หากไม่ต้องการใช้ไฟล์ banlist.txt
-worldname ชื่อโลก
กำหนดชื่อโลกหากใช้การสร้างโลกอัตโนมัติ (มาพร้อมกับ -autocreate)
-secure
เพิ่มระบบป้องกันโกงที่แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย
วิธีการเข้าเซิฟเวอร์
สำหรับใครที่ไม่รู้นะครับ ในเรื่องการเข้าเซิฟเวอร์คนอื่น ง่ายๆ ก็เพียงแค่เข้าตัวเกม Terraria ไป แล้วไปที่ Multiplayer ไปเลือก Join แล้วเลือกตัวละคร พิมพ์ IP และ Port เข้าเซิฟไป หรืออาจจะมี Password ด้วย

แต่ถ้าคนเปิดเซิฟต้องการจะให้เพื่อนเข้ามาแต่ไม่รู้ว่าจะบอก IP อะไรให้ คำตอบมีอยู่นี่ครับ
Hamachi เจ้าของเซิฟ ดูได้ที่ตัวโปรแกรมของ Hamachi ได้เลย (25.X.X.X) แต่เพื่อนต้องมี Hamachi นะ
Port Forward ดูได้จาก What's my IP?[www.whatsmyip.org] เลยครับ
จบกันเพียงเท่านี้
ในที่สุดก็จบสักทีนะครับ สำหรับวิธีเปิดเซิฟนี้น่าจะละเอียดพอ (มากเกินด้วยซ้ำ) กับการเปิดเซิฟทั่วไปนะครับ จะได้เปิดเซิฟให้เพื่อนมาเล่นด้วยได้สักทีนะครับ แต่วิธีเปิดเซิฟที่ให้ไปนี้ ยังไม่ได้พูดถึง Plugin ใดๆทั้งสิ้นนะครับ ให้ไปศึกษาเอาเองแล้วกัน ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะครับ และอย่าลืม ... นะครับ ^^

... กดไลค์ไกด์นี้
... ติ-ชม ให้คำแนะนำ
... เข้ากลุ่ม Terraria Community [TH] (Facebook[www.facebook.com]) มาเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา

------------------------------------------------------------
Edit History
22/12/2556 - เพิ่มเติมการสร้าง Dedicated Server ด้วย Configuration File
8/12/2556 - สร้าง Guide ขึ้นมา
12 Comments
Sadman 300% 11 Sep, 2023 @ 11:51pm 
มีวิธีเปิดผ่าน vm ไหมครับ ของ Azure, Google, Aws อะไรพวกนี้
caman 21 Jan, 2018 @ 12:23am 
เป็นประโยชน์มากๆครับ
ez02 [TH] คนไทย 6 Nov, 2015 @ 7:50pm 
แต่ว่าเดี๋ยวนี้มันไม่ต้องแบบนี้แล้ว
aaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaa 19 Jun, 2015 @ 10:45am 
เยี่ยมมากมากเบย :D:Corpus:
suppasit.big 29 Sep, 2014 @ 4:08am 
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบ
Apisita 26 Jan, 2014 @ 7:46pm 
สวดยอด ++++
theDEAD 21 Dec, 2013 @ 10:22pm 
ละเอียดมากมาย
Deagle Only 12 Dec, 2013 @ 6:46am 
WOW
Zenithveon 10 Dec, 2013 @ 2:28pm 
Just Me Passing through...Great Guide...
Chief Keef 8 Dec, 2013 @ 7:59am 
oh