Yakuza : Like a dragon ภาคต่อของเกมตระกูล Yakuza จากค่าย SEGA เป็นอีกเกมหนึ่งที่สนุกสุดกาวกับความคิดสร้างสรรค์ที่หยิบยกความเป็นแฟนตาซีแนว JRPG มาอยู่ในธีมยุคปัจจุบันได้อย่างโคตรจะลงตัว และเป็นภาคแรกที่เปลี่ยนสไตล์การเล่นจาก Action ให้กลายเป็น Turn base RPG และนอกเหนือจากการเปลี่ยนสไตล์การเล่นแล้ว เนื้อเรื่องจะไม่ได้เล่าเรื่องราวของคิริวต่อ แต่จะเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่มีนามว่า “คาสึกะ อิจิบัง” หนุ่มกำยำวัย26 ชายผู้มีโชคชะตาลิขิตให้มีความเกี่ยวข้องกับแก๊งยากุซ่ามาตั้งแต่กำเนิดที่มโนทุกอย่างให้เป็นดราก้อนเควสต์ได้

โดยตัวเกมเป็นเกมที่มีบทพูดคุยค่อนข้างเยอะมาก(หากใครเรียนญี่ปุ่นมาจะมีความอินมากขึ้น และได้เรียนวิธีการพูดแบบนักเลงที่ไม่มีสอนในห้องเรียนด้วย) ซึ่งจะแบ่งเรื่องราวได้ออกเป็น 15 Chapters ด้วยกัน โดยในแต่ละ Chapter จะมีโหมดและรูปแบบการเล่นใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ จึงไม่ทำให้รู้สึกว่าน่าเบื่อเลยถึงแม้ว่าจะบาง Chapter ฟังพูดกันเกือบชั่วโมง แต่ได้เล่นจริง ๆ ไม่ถึง10นาที(ฮา) เหมาะกับคนชอบเสพเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก

ความเป็นเกม RPG ที่นำมาใส่ในยุคปัจจุบันที่กล่าวไว้ตอนต้น เป็นเรื่องที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอมาก่อน คนคิดและดีไซน์เกมต้องมีความกาวขั้นสุด ตัวอย่างเช่น สกิลเรียกสัตว์มาโจมตี หากเป็น RPG แฟนตาซีก็คงไม่พ้นอาชีพ Druid แต่ในเกมนี้จะเป็นอาชีพขอทานที่เรามักจะมีอิมเมจว่าเป็นคนคอยให้อาหารนกพิราบ โดยทำท่าร่ายเวทย์ก็จริง แต่ในมือกำเมล็ดข้าวโพดแล้วปาใส่ศัตรูให้นกมารุมจิก!! และในเมื่อเป็น RPG ระบบธาตุและแพ้ธาตุก็มีเช่นกัน อย่างจำพวกเวทมนต์ต่าง ๆ เช่น เวทมนต์ธาตุไฟก็มี “อมเหล้าแล้วพ่นใส่ไฟแช็ค” ธาตุสายฟ้าก็เป็น “เครื่องช็อต” หรือธาตุน้ำจากอาชีพบาร์เทนเดอร์ที่ “ขว้างกระป๋องน้ำแข็งใส่” แต่ละท่าร่ายก็ฮาสู่ขิต

ต่อเนื่องกับความเป็น RPG อีกก็คือระบบเปลี่ยนอาชีพที่ต้องไปเปลี่ยนที่สำนักจัดหางานในท้องถิ่น ซึ่งมันโคตรจะเมคเซนสุด ๆ!!(ฮา) โดยอาชีพจะมีอาชีพประจำตัวละครเฉพาะตัวที่ไม่สามารถให้ตัวละครอื่นเป็นได้ เช่นตัวเอกจะเป็นอาชีพ “ฮีโร่” เพราะตัวเอกเบียวว่าจะเป็นผู้กล้ากอบกู้โลก(มาเฟีย) หรือเพื่อนพระเอกเป็นอาชีพขอทาน(อดีตบุรุษพยาบาล)ก็จะมีสกิลทั้งบู๊และบุ๋น และอาชีพประจำเพศที่ต่างเพศไม่สามารถเป็นได้ อย่างผู้หญิงก็จะเป็นอาชีพไอดอล ส่วนผู้ชายเป็นช่างก่อสร้าง ซึ่งอาชีพสามารถเปลี่ยนได้อิสระและเปลี่ยนตอนไหนก็ได้ ขอแค่ไปเดินเรื่องที่สำนักจัดหางาน

การเก็บค่าประสบการณ์ก็แบ่งได้เป็น2แบบ คือ ประสบการณ์ตัวละครและประสบการณ์อาชีพ ประสบการณ์ตัวละครก็จะเหมือนเกมทั่วไป แต่ประสบการณ์อาชีพของเกมนี้ เมื่อถึงจุดนึง จะได้สกิลมาใช้ในอาชีพ แต่บางสกิลของอาชีพนั้นก็สามารถนำไปใช้ในอาชีพอื่นได้ ในจุดนี้เราสามารถผสมผสานระหว่างความบู๊และบุ๋นได้ ซึ่งก็ค่อนข้างกินเวลาในการเล่นพอสมควรเลยทีเดียว แน่นอนว่าในเมื่อมีอาชีพ ก็ต้องมีอาวุธประจำอาชีพ ระบบคราฟท์อาวุธและชุดเกราะรวมไปถึงการอัพเกรดนั้นจึงขาดไปไม่ได้โดดยเด็ดขาด แต่ระบบนี้จะไม่มีในตอนแรก จะเป็นไปตามเนื้อเรื่อง ส่วนอาวุธก็มีตั้งแต่ไม้เบสบอลยันดิลโด้!!

ตึกรามบ้านช่องภายในเกมไม่น้อยหน้าภาคก่อน ๆ ไอคอนนิคของแต่ละสถานที่จัดเต็ม อาทิเช่นถนน โดทงโบริ(ในเกมจะเปลี่ยนเป็นเซนโตโบริ) ที่มีป้ายร้านอาหารอย่างปูยักษ์ หรือร้านคุชิคัตสึดารุมะจ้าวดัง หรือแม้แต่ริงเกอร์ฮัทก็มีให้เห็น แน่นอนว่าในแต่ละร้านก็สามารถเข้าได้อีกด้วย รูปเมนูแต่ละอย่างบอกเลยว่า “โคตะระหิว” แต่มีสิ่งที่น่าเสียดายอยู่คือป้ายไฟกุลิโกะที่ถูกแทนที่เป็นอย่างอื่นไป ใครที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น ในช่วงต้นของเกมนั้น ปุ่มวิ่งแทบจะไม่ได้ใช้เลย เพราะบรรยากาศมันน่าเดินเล่นจริง ๆ เดินเล่น ๆ จนไปเจอ อ.อ.น. ก็มี(ฮะ!?) ซึ่งรูปสาว ๆ ก็เป็นดาราหนังผู้ใหญ่ดัง ๆ ทั้งนั้น(แฮ่)

เนื่องจากเป็นเกมแนว Rich Story เราจึงความผูกพันธ์กับตัวละครและอินอย่างมากที่ได้เห็นการเติบโตของตัวละครนั้นจากในเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างครบอรรถรส ไม่ว่าจะเป็น รัก ตลก โกรธ หักหลัง เชือดเฉือน ฯลฯ โดยเนื้อเรื่องที่กล่าวมาจะเป็นการไต่เต้าของตัวเอกจากจุดที่ตกอับที่สุดในชีวิต เงินก็แทบไม่มีถึงขั้นต้องไปเป็นซาเล้งเก็บกระป๋องไปแลกของ(เล่นผ่านมินิเกม) หรือแม้แต่ไปคุ้ยเงินตามตู้หยอดเหรียญก็มี แต่ในตอนท้าย ๆ เราจะมีมินิเกมให้เล่นเป็นประธานบริษัทขายเซมเบ้(ข้าวเกรียบทอดญี่ปุ่น) และเมื่อจบมินิเกม เราจะได้ปลดล็อกสกิล “เงินตบหน้า” ตอนตบหน้าตัวเอกจะตะโกนว่า “ชะโจเพาว่า” แปลว่าพลังท่านประธาน (ฮาระเบิด) และแน่นอนว่าตอนนั้นเราจะเอาเงินแก้ปัญหาได้ นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้วก็จะมีเนื่องเรื่องรองอีกกว่า 50เควสต์เศษ ๆ ให้เราคอยแก้ไขปัญหา ซึ่งก็จะมีรางวัลต่าง ๆ กันไป บางครั้ง NPC ก็มาช่วยเราสู้ในฐานะ Poundmate(เทียบกับไฟนอลแฟนตาซีก็คือสัตว์อสูร) ที่เราต้องอัญเชิญผ่านมือถือโดยมีค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่เรียก แต่อย่าลืมว่าพอถึงจุดนึงเราจะใช้เงินจากความเป็นท่านประธานมาแก้ไขปัญหานั่นแหละ

ส่วนทางด้านกิจกรรมอื่น ๆ อย่างมินิเกมก็มีให้เล่นค่อนข้างเยอะจุใจ ไม่ว่าจะเป็นไพ่โป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค21 ไพ่นกกระจอก หรือหวดเบสบอลล์กับไดรฟ์กอล์ฟ ตู้เกม ตู้คีบตุ๊กตา ตู้สลอท หรือแม้แต่มาริโอ้คาร์ทก็ยังมี อีกสิ่งหนึ่งคือเพิ่มทักษะของตัวเอกซึ่งจะมีอยู่หกชนิดด้วยกัน ซึ่งใช้ในการจีบสาวในเกมทั้ง 6คน ซึ่งหากจีบติด 2คนก็จะได้รับ achievement แต่ถ้าหากต้องการทำเควสต์รองให้ครบ แนะนำให้จีบครบทั้ง 6คนครับ

ข้อดีเกมนี้มีมากมายก่ายกอง เรามาดูข้อเสียกันว่ามีอะไรกันบ้าง ประการแรก เกมนี้ไม่เหมาะกับคนชอบแนว Action เพราะเนื้อเรื่องที่คุยกันยืดยาว และวิธีการเล่นที่เปลี่ยนไปเป็น Turn base ประการที่สองคือหากภาษาไม่แข็งแรง เล่นไม่สนุกแน่นอน เพราะเราจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะในบางครั้งเราต้องอ่านเนื้อเรื่องไว้ไปตอบในภายภาคหน้า (ไม่แนะนำให้กดskip) ประการที่สามคือระบบต่อสู้ที่เอื่อยเฉื่อย หลัก ๆ มีเท่านี้

สรุปจากการเล่นทั้งหมด เพียงแค่ 70ชั่วโมงก็สามารถจบเกมได้ทั้งหมด รวมเวลาเก็บเลเวลเควสต์หลักและรอง รวมไปถึงฟังตัวละครพูดทุกเม็ดแล้วด้วย และการเก็บ achievement ของเกมนี้ก็ไม่ได้ยากเลย จะเหลือแค่อันสุดท้ายที่ต้องใช้ความถึกอีก 80ชั่วโมง รวม 150ชั่วโมง ในการไต่หอสุดท้ายที่ต้องการเลเวล99ทุกตัว พร้อมอัพเกรดไอเทมจัดเต็มมาพิชิตเท่านั้นเอง(ผู้เขียนท้อไปก่อน) ใครเป็นแฟนเกมซีรีย์นี้ แนะนำเป็นอย่างมากที่ควรสานเนื้อเรื่องต่อครับ