Recent reviews by Udom_Baansomboon

รอบนี้ขอมาสั้น ๆ เพราะเขียนสิ่งส่วนใหญ่ไว้ในรีวิวภาคแรกแล้ว

ด้านเนื้อเรื่อง เรื่องภาคนี้จะต่อจากภาคแรกเลย ด้วยบัญชาจาก CEO++ เราในฐานักพนักงานนักหงี่ราชย์ถูกส่งไปอาณาจักรทะเลทรายที่อยู่ทางใต้ของดาว เพื่อไปแหกโค้ดศีลธรรมเหล่าเจ้าขุนมูลนายเหมือนที่เคยทำมา ในขณะที่ฝั่ง CEO++ ก็เปิดรับสมัครพนักงานสาวสวยหน้าใหม่มาเพื่อเร่งการเปิดสวนหงี่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด ความหงี่จะชะตาจะพาท่านไปพานพบใคร ก็ต้องไปเล่นกันเอาเองนาจา

ภาคนี้จะโดดจากเรื่องราวเจ้าหญิงโลกยุโรปไปเป็นเจ้าหญิงแดนเปอร์เซีย ผมว่าหลาย ๆ ท่านก็คงจะนึกออกสักชื่อสองชื่อแหละ เนื้อเรื่องยังคงทำได้น่าสนใจ ปรับเรื่องราวเจ้าหญิงให้เข้ากับเซตติ้งเกมได้ดี รวมถึงพนักงานสาวคนใหม่ก็ตรงสเปคผมสุด ๆ ฉะนั้นผมจะนับว่านี่เป็นข้อดีละกัน

ด้านเกมเพลย์ เหมือนภาคแรก หลัก ๆ ก็คือ ส่งโดรนหาของ -> ทำเสื้อผ้าให้ตัวละคร -> ทำการหงี่แหกโค้ดศีลธรรม -> เย ต่างที่ภาคนี้ไม่ต้องไปลำบากส่งโดรนมากเพราะของที่ต้องหามันมีไม่มาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้สร้างรู้ pain point นี้ หรือแค่เร่งทำเกมจนไม่มีเวลาขัดเกลาเกมเพลย์ ผมก็มิทราบได้

ด้านภาพ ดีเหมือนเดิม สวยงาม ฉากอัศจรรย์ยอดเยี่ยม

สิ่งที่ผมว่าชูโรงสำหรับตัวซีรีย์นี้ก็คือการเขียนบทสนทนาที่ทำได้กวนส้นตีนมาก ซึ่งภาคนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จังหวะการเล่นมุกอะไรต่าง ๆ ยังอยู่ในมาตรฐานที่ภาคก่อนเคยทำไว้ เอาจริงคือบทสนทนาเกมนี้แม่งไร้สาระและไม่มีความจริงจังอะไรเลย มันก็เลยทำให้ผมชอบมาก ๆ

ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเลยคือ ภาคนี้เหมือนถูกเร่งทำให้เสร็จไว้ก่อน ยิ่งโดยเฉพาะครึ่งท้ายของเกมที่จะรู้สึกได้เลยว่าเกมมันเร่ง แถมพวกการสร้างเสื้อผ้าหรือทรงผมก็ถูกลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงพื้นที่บางที่ทั้งเกมไม่สามารถไปได้แต่ดันขึ้นว่าให้เดินทางไปได้ ผมเลยรู้สึกว่าเล่นแล้วมันไม่อิ่มอะ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มตัวละคร บางคนแทบไม่มีบทสนทนาด้วย บางคนจู่ ๆ ก็ได้เยแล้ว ละก็รวมถึงบัคสีตากับชุดของเจ้าหญิงที่ไม่ได้เปลี่ยนตามเนื้อเรื่อง เหมือนคนทำเกมสักจะทำให้เกมมันเสร็จแบบขอไปทีแล้วจะได้ไปทำเกมใหม่ ซึ่งพูดจริงคือผมค่อนข้างผิดหวังเพราะภาคแรกทำไว้ดีมาก แต่ภาคนี้มาตรฐานกลับลดลงเฉย อย่างไรก็ดีซีรีย์นี้มันยังไม่จบบริบูรณ์ ก็คงต้องรอภาคต่อไปว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน จบการบรรยายครับนักศึกษา

Sabres of Infinity เป็นเกมภาคแรกของจักรวาล Infinity ของค่ายนี้ โดยจะเป็นเกมที่ไม่ได้ใช้ภาพในการเล่นเลย ตัวอักษรล้วน ๆ ให้อารมณ์เหมือนอ่านหนังสือเล่มหนึ่งมากกว่าเล่นเกมอีกมั้ง

ด้านเรื่องเรื่อง ผมว่าค่อนข้างธรรมดา แต่มีความน่าสนใจ เราจะได้รับบทเป็นลูกของตระกูลขุนนางตกอับคนนึงที่ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นทหารเพื่อตามล่าวันพีซ ถุ้ย! ตามล่าเงินตราและเกียรติยศสู่ตนและวงศ์ตระกูล ครอบครัวเราเจียดเงินไม่กี่ก้อนสุดท้ายซื้อใบสมัครเข้าทหารให้เราที่สังกัดกองทหารม้าดรากูน (ทหารม้าเบาพลราบ มีปืนคาบศิลากับดาบตรงเป็นอาวุธ) ซึ่งผมลืมกล่าวไปว่าเราอยู่ในบริบทโลกที่กำลังเกิดสงครามระหว่างชาติเรากับชาติทางเหนือ ทำให้หลังเราเข้ากรมก็ต้องรีบฝึกแล้วออกไปรบเลย ส่วนเรื่องราวชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อ ก็อยู่ที่โชคชะตาของเหล่าท่าน ๆ แล้ว จะเป็นทหารกล้ารบประจัน เพื่อเกียรติยศ หรือจะตกสู่ความฉิบหายบรรลัย ก็ล้วนแต่เป็นตัวเลือกของพวกท่านทั้งสิ้น

ว่าด้วยเรื่องของเซตติ้งโลก โลกในเกมนี้จะมีความเป็นแฟนตาซี มีเผ่าต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากมนุษย์ เช่น เอลฟ์ มังกร มีเวทมนต์ศัสตราสารพัดนา ๆ ผสมรวมกับเทคโนโลยีการทหารช่วงสมัยสงครามนโปเลียน ซึ่งไม่ค่อยเห็นมีใครทำเรื่องแบบนี้ ปกติแล้วเราจะเห็นแฟนตาซีผสมคู่กับยุคกลางมากกว่า ถ้าใครอยากดูว่าสงครามนโปเลียนในฉบับแฟนตาซีเป็นไง ก็เกมนี้แหละครับ แต่ว่าโลกในเกมนี้ไม่เน้นแฟนตาซีขนาดนั้นนะ คือถึงมีเวทมนต์หรือมังกร แต่ก็ไม่ได้ใช้กันมั่วซั่ว เทคโนโลยี ยุทธวิธีการรบมีส่วนสำคัญมากกว่า (อนึ่งก็เพราะมีน้อยคนในโลกที่ใช้เวทมนต์ได้ด้วยมั้ง)

เกมเพลย์ไม่ได้ซับซ้อนมาก ถ้าใครเคยเล่นพวก Visual Novel จากเว็บ Dek-D เกมนี้จะให้อารมณ์คล้าย ๆ กัน กดอ่านไปเรื่อย ๆ แล้วเลือกการกระทำที่คุณอยากเลือก และดูผลลัพธ์ของมัน เว้นเสียแต่ที่เกมนี้จะมีค่าความสามารถเพิ่มเข้ามา ก็ RPG นั้นแหละ การกระทำบางอย่างจำเป็นต้องใช้ค่าความสามารถที่มากพอ ฉะนั้นการ min-maxing ถือว่าสำคัญมากสำหรับเกมนี้ คือบางครั้งคุณก็ต้องตัดสินใจอะไรที่คุณไม่ชอบ แต่มันจำเป็นสำหรับการอยู่รอดของคุณ เอ้า นี่แม่งก็ชีวิตปกติของทุกคนชัด ๆ ทุนนิยมนี่มันเหี้ยจริง ๆ

สำหรับคนไทยอย่างเรา ความสามารถที่จำเป็นต้องมีก่อนการเล่นเกมนี้คือทักษะภาษาอังกฤษ (แบบงู ๆ ปลา ๆ ไม่ได้ด้วย) และความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือประวัติศาสตร์การรบ/การทหาร เพราะนี่คือนิยายสงคราม มีศัพท์เฉพาะทางแบบจัดเต็มเบิ้ม ๆ สองห่อใส่ไข่ เตรียมเค้นสมองทุกตารางนิ้วของคุณในการจินตนาการภาพสงครามที่ยิ่งใหญ่นี่ด้วย เพื่อความอิน แสบซ่าน

ตามจริงอันนี้ไม่ใช่การรีวิวด้วยซ้ำ เป็นการที่ผมอยากมาพล่ามห่าเหวอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเกมนี้ เพราะหน้ารีวิวภาษาไทยไม่มีใครลงสักที เลยขอเจิมคนแรกเลยละกัน อาจารย์ประกาศคะแนนกลางภาควิชา HS328 ด้วยครับ

ยาวไปไม่อ่าน : รับบทเป็นกษัตริย์ บริหารตัดสินใจผ่านเนื้อเรื่องที่ดำเนินได้อย่างยอดเยี่ยมมาตรฐานเดียวกับตัวเกมหลัก ยกระดับด้วยระบบการเล่นที่พัฒนามาจากภาคหลัก บริหารทรัพยากร ออกพ.ร.ฎ.ที่ชอบ ทำสงคราม เจรจาการค้า ผูกไมตรี รักษาความสัมพันธ์กลุ่มอำนาจ แก้ปัญหาประเทศที่มี เพื่อผลประโยชน์ของผู้คน ชาติ หรือตัวเอง ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับตัวเลือกของท่าน ใด ๆ ก็ตาม DLC นี้ประสบกับปัญหาด้านเนื้อหาที่ยังน้อยไป (ในสเกลของเกมนี้) เนื่องจากปัญหาด้านทรัพยากรที่จำกัดของค่ายเกม ซึ่งตอนนี้ทางค่ายก็ทยอยอัปเดตเพิ่มเนื้อหาเป็นระยะ


ไม่ยาวไม่อ่าน : จากที่เราได้เล่นเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐในตัวเกมหลัก ตอนนี้เราจะได้เป็นราชาในระบอบกษัตริย์กึ่งรัฐสภา พูดง่าย ๆ คือระบอบที่มีสภาเป็นนิติบัญญัติ แต่อำนาจบริหารและการตัดสินใจสูงสุดยังเป็นของกษัตริย์ กล่าวคือระบอบในรัฐสมมุตินี้ไม่ว่าสภาจะผ่านร่างอะไรมา คนที่ตัดสินใจบังคับใช้ก็คือผู้เล่นในฐานะกษัตริย์นั่นเอง ปัญหาใหญ่ของประเทศที่เป็นเป้าหมายสำคัญคือการนำดินแดนที่เสียไปคืน (ไหงเหมือนประเทศแถวนี้) รองลงมาก็เศรษฐกิจ, การเมือง, ความสัมพันธ์ใน-นอกประเทศ, อีกมากมาย
­­­­
สิ่งใหม่ ๆ ของ DLC นี้ที่ผมพบเห็นและชอบ อาจอธิบายไม่หมดเพราะขี้เกียจเขียน

1. ระบบบริหารทรัพยากร เราจะได้บริหารสามสิ่งของประเทศคือ อำนาจ(authority), งบประมาณ(budget), พลังงาน(energy) สามสิ่งนี้จะเพิ่มหรือลดตามการตัดสินใจและการบริหารของผู้เล่น พูดง่าย ๆ ทั้งสามอย่างนี้ถือว่าเป็นเงินสามชนิดที่ต้องใช้จ่ายในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป จำต้องบริหารให้ดี

2. ระบบพระราชกฤษฎีกา (royal decree) มีตัวเลือกให้ผู้เล่นตัดสินใจเองว่าจะออกกฏหมายอะไร เลือกลงทุนที่ไหน ซึ่งตัวเลือกพวกนี้จะเป็นตัวกำหนดแนวทางของประเทศนี้ไปตลอดเกม ในการจะออกพ.ร.ฎ.ก็ต้องใช้ทรัพยากรจากข้อด้านบน เช่น หากตัดสินใจจะสร้างนิคมอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มผลการผลิตและการจ้างงานก็จะเสียค่าอำนาจและงบประมาณและหลังสร้างเสร็จก็จะเสียค่าพลังงานต่อเทิร์นเล่น บอกเลยว่าต้องชั่งใจสุด ๆ เวลาจะออกพ.ร.ฎ.อะไรไป

3. กลุ่มผู้คน ในตัวเกมหลักกลุ่มผู้คนหลัก ๆ ที่เราต้องเอาอกเอาใจคือพลเมืองปกติ ชนกลุ่มน้อย นักการเมืองอุดมการณ์ทั้งหลาย และนายทุน ซึ่งในที่นี้การตัดสินใจอะไรก็ทำให้อีกฝ่ายได้ อีกฝ่ายเสียแน่นอน มันจะส่งผลต่อความนิยมในตัวผู้เล่นเองจนอาจนำไปสู่เหตุการณ์อันไม่คาดฝันได้ กลับมาที่ตัว DLC นี้ มีกลุ่มผู้คนใหม่ที่เราต้องมองอีกคือศาสนา และขุนนางซึ่งเป็นพวกที่ถืออำนาจมาก ต้องคิดให้ดีสุด ๆ ก่อนทำอะไร เพราะตัวเลือกส่วนใหญ่ที่เอาใจประชาชนคนธรรมดามันจะไปขัดผลประโยชน์ของขุนนางได้ นอกจากนี้ยังมีการยกระดับเนื้อหาของครอบครัวของผู้เล่นให้มากกว่าตัวเกมหลักด้วย

4. โรแมนซ์ ก่อนปล่อยผมเห็นหน้าสโตร์เขียนประกอบไว้ว่ามี ผมไม่คิดว่ามันจะมีในเกมแบบนี้นะเนี่ย อาจมีเพราะหลายคนเรียกร้องแหละมั้ง อย่างไรก็ตาม อันนี้ทำได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง กล่าวคือไม่มันฟิน (แน่นอนแหละ มันไม่ใช่เกม dating sim โว้ย) ตัวสตอรี่ของมันมีน้อยแล้วก็ดำเนินไปเร็วมากทำให้ซึมซับอารมณ์ไม่ได้เลย รวมถึงรูทคนที่โรแมนซ์ด้วยได้ก็มีแค่สองคน (ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง) แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม

5. ระบบบัญชาการรบ ให้อารมณ์เหมือนเล่นบอร์ดเกมไม่ก็เกม 4X โดยรวมไม่ยากไม่ง่าย แต่ต้องคิดสักนิดนึง มีทหารหลายประเภท แต่ละประเภทเด่นคนละอย่าง บางตัวตีแรง บางตัวให้ดาเมจซัพพอตสูง สามารถใช้ยูนิตพวกนี้สนับสนุนกันและกันได้ (บอกไว้เลย ทหารนาวิก+ซัพพอตจากเรือโหดจัด)

ความรู้สึกหลังเล่นจบสองรอบ

เป็นอะไรที่สนุกมาก ตาแรกผมเล่นสากษัตริย์ลิเบอรัลสุดโต่ง ปฏิรูปความเป็นอยู่ของประชาและชนกลุ่มน้อย ปฏิรูปสภา เปลี่ยนประเทศเป็นฆราวาสนิยม ออกกฎหมายที่ดินกับกฎหมายมรดก ฟัคนายทุน สรุปประชาชอบ ขุนนางเกลียด จบอย่างไรขอให้เดาเอาเอง ที่แน่ ๆ คือศพไม่สวย ตาสองจึงเลือกเล่นสายอำนาจนิยม เสริมกำลังกองทัพ ไม่ออกกฎหมายมั่วซั่ว สร้างงานให้คน เปลี่ยนประเทศเป็นพหุนิยมทางศาสนา พอได้ความนิยมก็จัดการยุบสภาแม่ม กลายเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์อย่างแท้จริง จบด้วยการทวงคืนดินแดนได้โดยใช่แค่การฑูต ไม่ต้องใช้กำลัง what a based path

ตัวเกมของ DLC ยาวประมาณ 10 ชั่วโมงเท่า ๆ กับเรื่องของตัวเกมหลัก ทำให้เนื้อหาที่อยากพล่ามนี้ยังไม่หมด แต่ใด ๆ ก็ขี้เกียจเขียนแล้ว จึงขอตัดจบแค่นี้

มาเขียนเพิ่มหลังจากเล่นจบ 4 รอบ ลองสาย Reform, Absolute Monarch, Status Quo อะไรต่อมิอะไรแล้ว รู้สึกว่าเกมมันกลวง ๆ การแสดงผลของการกระทำของผู้เล่นก็ไม่ส่งผลลัพธ์ในภาพรวมขนาดใหญ่ เนื้อหาบางอย่างไม่ประติดประต่อ และไม่รู้จะทำไปทำไม เช่นตอนล่าหาคนลอบสังหารที่หารที่ไม่รู้จะทำไปทำไม เล่นสายสงครามก็ให้โทษมากกว่าประโยชน์ มีไว้เพื่อ rp อย่างเดียว แถมเกมที่ยาวเกือบ 10 ชั่วโมงตามจริงแล้วคอนเทนต์ยังน้อยไปด้วย รู้สึกได้เลยว่าเกมมันจบเร็วเกินไป (ค่ายประกาศก่อนแล้วว่าที่ทำได้แค่นี้เพราะทรัพยากรหมด) มันทำให้เล่นแล้วรู้สึกขาด ๆ หาย ๆ ไม่เต็มอิ่มเหมือนตัวเกมหลัก

มาอัปเดตอีกรอบ หลังเกมปล่อยเวอร์ชั่น 3.1 มา ซึ่งเพิ่มคอนเทนต์มาจำนวนหนึ่ง ผมบอกได้เลยว่าสนุกมาก ตัวเกมมีอะไรให้ทำขึ้นเยอะ พวกกฤษฎีกามีมากมายขึ้นให้เลือก รวมถึงยังอัปเดตคอนเทนต์ของสายเทวาธิปไตยอีก ผมลองเล่นแล้วขอบอกเลยว่าสายนี้แม่งเป็นอะไรที่โคตร schizo คุณแม่งเปลี่ยนประเทศตัวเองให้กลายเป็นศูนย์รวมคนคลั่งศาสนา ประกาศตัวเองเป็นอาณาจักรแห่งพระเจ้า ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นอะไรกาว ๆ ในเกมนี้ โคตรได้ฟิลเหมือนตอนเล่น Kaiserredux

ถ้าจะพูดถึงความยอดเยี่่ยมของไตรภาคเกมนี้ ผมเล่าไปที่ตอนที่ผมซื้อมาเล่น คืออีกสัปดาห์มหาลัยมันจะเปิดเทอมแล้ว เลยต้องเล่นมันทั้งสัปดาห์เพื่อที่จะให้จบทั้งไตรภาค เล่นวันละสิบกว่าชั่วโมงไม่ได้ทำอย่างอื่น สรุปเล่นจบก่อนเปิดเทอมวันนึงพอดี ประเด็นคือด้วยความที่ผมนั่งจ้องไอ้เกมนี้มาทั้งสัปดาห์ ทำให้เกิดอาการ Brainrot อย่างรุนแรง สมองผมแม่งคิดแต่เรื่องเกมนี้ ตอนจะนอนมันก็ไปคิดเรื่องนี้แล้วนอนไม่หลับ ตอนหลับก็ฝันถึงมัน ตอนเรียนก็ไม่มีสมาธิ ไอ้บ้าเอ้ย คือสาเหตุมันก็มาจากการที่เล่นเกมติดต่อกัน แล้วรวมถึงความที่เนื้อเรื่องเกมนี้มันทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก (ยกเว้นตอนจบ) ทำให้มันมีหลายอย่างให้ต้องคิดแม้จะเล่นเกมนี้จบไปแล้ว ตัวเลือก การกระทำ และความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไรหากผมเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป หัวมันคิดแต่เรื่องนี้ทั้งวัน กว่าจะหลุดจากวังวน Brainrot ได้ก็ใช้เวลาสัปดาห์กว่า ๆ ตอนนี้อยากกลับไปเล่นอีกรอบ แต่มันจะสอบแล้ว ยังไม่ได้อ่านหนังสือ โอ้ยยย

ยาวไปไม่อ่าน : สนุกและเพลิดเพลินไปกับการล่อสี้เจ้าหญิงและตัวละครอีกมากมายจากเทพนิยายและนิทานอันโด่งดังที่ถูกค่ายชื่อดังที่ขึ้นต้นด้วย ดิส และลงท้ายด้วย นีย์ สร้างเป็นการ์ตูนเป็นนักต่อนัก เกมนี้งานภาพสวย เนื้อเรื่องสนุกมีสตอรี่ที่น่าติดตาม มีการใช้วาทศิลป์เขียนบทสนทนาที่ดีมาก เกมเพลย์ Repetitive ไม่เหมาะกับคนเบื่อง่าย บทอัศจรรย์สำหรับตัวละครสั้นไปนิด ส่วน BGM เกมนี้นี่ผมไม่รู้ ผมเปิด Sabaton ฟังตอนเล่น และตอนนี้เกมยังมีแค่ 1 Chapter ยาวประมาณ 10 ชม.


ไม่ยาวไม่อ่าน :
ในฐานะหนึ่งในคนเล่นเกมหงี่มือสมัครเล่นแห่งประเทศไทย การเจอเกมนี้ได้ถือว่าเป็นเหมือนเจอเพชรในมหาสมุทร ผมดันบังเอิญไปได้เล่นเกมนี้ในเว็บหนึ่งมาก่อนแล้ว เกมมันดีมาก เล่นเพลินสุดท้ายลืมเซฟ (ฺฮากหล่า) หลังจากนั้นจึงเห็นว่ามันลงสตีม ก็เลยตั้งหน้าตั้งตารอแล้วกดเดย์วันมันเสียเลย (ภูมิใจสุด ๆ)

ขอเปิดที่เนื้อเรื่องก่อนเลย เกริ่นก่อนคือเรารับบทเป็นใครไม่รู้ ที่รู้คือเราเป็นเพศผู้และมีไอ้จ้อนอยู่ เกมจะให้เราตั้งชื่อตัวละครเอง เริ่มมายานเราตกลงดาวดวงหนึ่งในกาแล็คซีบ้านนอกที่ไหนสักที่ ยานแม่งตกลงลานจอดของอาคารควบคุมอะไรสักอย่างอีก เข้าไปแล้วก็เจอแฟร์รี่ถูกขังอยู่ในคัมจาร์ หลังจากเราช่วยอะไรต่างอะไรให้แฟร์รี่แล้วนางก็บอกไอ้ดาวที่เราอยู่แต่ก่อนมันเคยเป็นสวนสนุกผจญภัยที่มีหุ่นยนต์ AI เจ้าหญิงในนิทานเป็นจุดขาย แต่ด้วยความที่คนสร้างสวนสนุกนี้มันดันมีศีลธรรมเกิน คือคนที่มาสวนสนุกนี้หงี่ใส่ AI ไม่ได้ เพราะมันมีโค้ดศีลธรรมหรืออะไรทำนองนั้นฝังอยู่บลา ๆ ๆ ด้วยเหตุนี้สวนสนุกก็เลยร้างจนต้องปิดไปศตวรรษครึ่งจนเราเอายานมาตกที่นี่นั่นแหละ จากนั้นแฟรร์รี่เลยตั้งตัวเองเป็น CEO++ ของดาวนี้ นางบอกนางมีแผนจะสร้างสวนสนุกนี้ใหม่ แต่เปลี่ยนจากสวนสนุกแห่งผจญภัยเป็นสวนสนุกแห่งความหงี่ แต่ก่อนที่จะเปิดได้ก็เป็นหน้าที่ของเรา พนักงานคนใหม่ ที่ต้องทำการแหกโค้ดศึลธรรมหุ่นยนต์เจ้าหญิงให้มันรู้จักวิชาเพศศึกษาเสียก่อนจึงจะเปิดสวนสนุกได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปเอาไว้เล่นดูกันเอง

คือเนื้อเรื่องที่มันปูมาก็น่าสนใจแล้ว ธีมของมันก่อนผมมาเล่นคิดไว้ว่าจะต้องเป็นยุคกลางตามสมัยนิยมของนิทานหรือเทพนิยาย แต่ที่ไหนได้มันดันเป็น Sci-fi เฉยเลย ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างเซตติ้งของเกมได้ดีมาก เพราะมันจะช่วยอธิบายความสมเหตุสมผลของสิ่งที่เกมจะนำเสนอเมื่อได้เล่นต่อ ๆ ไป แต่สิ่งที่ผมเสียดายมากที่เกมไม่ได้ใส่มาคือ Lore ของเกมนี้ แน่นอนไอ้เซตติ้งไซไฟมันทำมาล้อเลียนหนังต่อสู้ในอวกาศชื่อดังเรื่องหนึ่ง แต่ผมก็อยากเห็นความเป็นมาของตัวละครเรากับของจักรวาลในเกมเหมือนกัน มันจะเป็นการเพิ่มความอินและน่าติดตามในการเล่นอีกด้วย และอีกอย่างถ้าใครมีความทรงจำหรือความรู้เกี่ยวกับตัวละครเจ้าหญิงในมาก่อน พอได้ภารกิจมาให้ Corrupt ตัวละครแบบนี้แล้วเนี่ยมันสุดฟินเลย

มาต่อกันด้านเกมเพลย์ คือเกมนี้เป็นเกมที่เล่นง่ายมาก คุณแทบไม่ต้องทำอะไรยุ่งยาก ส่วนใหญ่มีแค่ เริ่มวัน -> ปฏิสัมพันธ์กับตัวละครต่าง ๆ -> ส่งโดรนหาของ -> นอน แล้ววนแบบนี้ไปเกือบทุกวันจนจบเกม ซึ่งโอเคแหละเพราะเกมนี้มันเป็น Visual Novel แต่บางครั้งทำอะไรวน ๆ แบบนี้มันก็ค่อนข้างเบื่อบ้างโดยเฉพาะเมื่อเนื้อเรื่องมันไม่เดิน ผมคิดว่าทางผู้พัฒนาน่าจะทราบถึงเรื่องนี้อยู่เลยพยายามใส่ลูกเล่นแบบเกมอะไรเอ่ย (Riddle) มาอยู่เหมือนกัน

ในการที่จะเซ็ตหย่อ สูดต่อ ซูดผ่อ สี่หม่อ สองห่อ ใส่ไข่กับเจ้าหญิงได้ คุณต้องฝึกให้เจ้าหญิงค่อย ๆ ทำสิ่งที่ปกติก่อนแล้วบิดเบือนความคิดพวกนางให้หื่นขึ้นเรื่อย ๆ โดยวิธีการคือการทำเควสให้ตัวละครนั้น ๆ ซึ่ง 80% ของเควสที่ว่านั้นคือการทำชุดหรือทรงผมใหม่ ๆ ให้ตัวละครใส่ กับอีก 20% คือการหาของด้วยการส่งโดรนหรือไม่ก็ซื้อจากร้านมันเสียเลย พอส่งเควสเสร็จก็จะเข้าสู่การฝึกตัวละครเป็นขั้น ๆ ไป พวกนางก็จะเอโร่ยขึ้น จนในที่สุดผลลัพธ์ของความพยายามก็จะบังเกิดขึ้นเอง อ้อ ลืมบอก เกมนี้ไม่ได้มีแค่หุ่นยนต์เจ้าหญิงที่สี้ได้นะครับ มีเอเลี่ยนสาวตัวฟ้ากับหุ่นยนต์จิตใจมนุษย์อีกอย่างละคนที่ไม่ได้แค่สี้ได้อย่างเดียวแต่ยังสามารถ Romance หรือจีบได้ด้วย อาจเรียกได้ว่ากลายเป็นเกมจีบสาวไปแล้วก็ได้เช่นกัน

ด้านภาพและฉากติดเรทของเกมนี้ ผมไม่มีอะไรจะพูดอะไรเยอะ ด้านภาพผมคิดว่ามันสวย ผมชอบลายเส้นเกมนี้นะ ดูง่ายสบายตา สาว ๆ น่ารัก ส่วนฉาก R18 นี่ผมชอบความสร้างสรรค์ของแต่ละฉากของตัวละครมาก คนนึงเซ็ตหย่อแบบธรรมดา อีกคนโล้สำเภากับกระจก แปลกแต่ดีจริง ๆ แต่ว่าฉากแต่ละฉากมันสั้นมาก ๆ กดไม่ถึงสิบคลิ๊กก็จบแล้ว รมณ์บ่จอย

มาถึงส่วนของเกมนี้ที่ผมชอบที่สุดเลยคือ บทสนทนา เกมทำส่วนนี้ได้ดีมาก การเลือกใช้คำ ความกวนตีนของหลายประโยค การแหกกำแพงที่สี่ การ Reference หลาย ๆ อย่างในบทสนทนา สิ่งพวกนี้แหละคือส่วนที่ผมคิดว่าทำให้เกมมันไม่น่าเบื่อ คือถ้าเกมนี้เป็นเกม Visual Novel หลาย ๆ เกมที่ผมเคยเล่นมาก็คงจะเบื่อ ง่วง และเลิกเล่นไปนานแล้ว อันนี้ผมขอยกขึ้นหิ้งเป็นตัวอย่างของการเขียนที่สร้างสรรค์และกวนตีนที่สุดที่ผมเคยเจอในเกมแนวนี้ มีหลายฉากที่ต้องผมอุทานแบบ "ไอ้สั* ไอ้เ*ี้ย" ออกมาพร้อมขำ ไม่ใช่เพราะมันห่วย แต่แม่งกวนประสาทผมดี คนทำเกมแม่งก็คิดได้เนาะ

ส่วนเรื่องบัค ผมเจออยู่ครั้งสองครั้ง ครั้งแรกคือผมกดอ่านหนังสือก่อนนอนไม่ได้เพราะมันดันบอกว่าผมอ่านไปแล้วเฉยเลย แต่เล่นไปแปปหนึ่งก็หาย อีกครั้งคือชุดเจ้าหญิงอันนึงของ Snow White เลเยอร์ส่วนคอมันทะลุหน้ามาเฉย อันนี้ผมเข้าใจว่าเขาน่าจะเปลี่ยนหน้าตาของตัวละครใหม่ก่อนลงสตีมแล้วคงไม่ได้ปรับเรื่องชุดนี้จึงทำให้คอทะลุหน้า นอกจากบัคทีว่ามาก็มีความผิดพลาดในการพิมพ์บ้างเล็กน้อย เช่นบางครั้งเกมลืมเปลี่ยนชื่อ Anna กับ Elsa (แม่นางสองคนนี้ไม่ได้อยู่ในเวอร์ชั่นสตีมแต่อยู่ในเวอร์ชั่น Patreon) เป็นชื่อ Astrid กับ Lagertha ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมที่เล่นเวอร์ชั่นก่อนลงสตีมมาก่อนแล้ว แต่อาจเป็นปัญหาสำหรับคนที่ยังไม่เคยเล่นก็เป็นด้าย~

สรุปแล้วเกมนี้เป็นประสบการณ์ 10 ชั่วโมงที่ [ไปอ่านย่อหน้ายาวไปไม่อ่าน] และผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเล่น Chapter ต่อ ๆ ไปไม่ไหวล้าว

ขออนุญาตให้คะแนน
สำหรับตอนนี้เอาไปเรย 8/10
ถ้า Chapter ต่อไปดีก็ 9/10
ถ้าผู้พัฒนาเอา Elsa กลับมาก็ 10/10 (DEV IF YOU READ THIS PLS BRING ELSA BACK I WANNA แบงจ์ HER 😭😭)

จบ
ลงชื่อ อดีตนักศึกษาวิชาทหารปี 3 ลูกศิษย์ราชา นศท.

(แก้ไขคำผิด)

อัพเดต : แพตช์ใหม่บัคชุดสโนไวท์คอทะลุ กับบัคสำหรับคนที่ Import เซฟเก่าจากเวอร์ชั่นในเว็บแล้วเนื้อเรื่องไม่เดิน Dev แก้แล้วนะคับ

รีวิวจาก First Impression หลังเล่นจบครั้งแรก
สุดยอดเกมจำลองการเมืองที่น่าจะสนุกที่สุดแล้วมั้ง เกมเพลย์ดูไม่มีอะไรแต่น่าติดตาม เนื้อเรื่องจะเดินโดยการตัดสินใจด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องมุมมองทางการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล รวมถึงท้าทายผู้เล่นในด้านการให้ความสำคัญกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่เห็นชัดจากการเล่นครั้งแรกเนี่ยคือการที่ผมต้องเลือกระหว่างคนกับเศรษฐกิจของชาติ ถ้าเลือกเศรษฐกิจ...แน่นอน...กลไกลเศรษฐกิจหมุนเวียน หาเงินเข้ารัฐได้มาก แต่ผู้ได้ประโยชน์ก็มีแค่รัฐกับคนบางส่วน กลับกันถ้าเลือกคน ถึงแม้ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจจะน้อย แต่คุณได้ช่วยให้ประชาชนชนชั้นกลางและต่ำกว่านั้นลืมตาอ้าปากได้ การบาลานซ์สองตัวเลือกนี้ก็ส่งผลให้ผมต้องคิดให้ดีก่อนละ จะเลือกช่วยคนให้เค้ามีชีวิตที่ดีขึ้นดีไหม แต่เศรษฐกิจประเทศก็ใกล้ดิ่งร่องลึกมาเรียนาอยู่แล้ว ฉะนั้น....ทุนนิยมมันเ*ี้ยจริง ๆ ครับ


อนึ่ง ที่สำคัญสถานการณ์ของประเทศที่เราได้เป็นผู้นำอยู่ในเกมก็ดั๊นนนนนน ไปคล้ายกับสถานการณ์ในประเทศสารขัณฑ์แถวนี้อีก เพราะฉะนั้น 14 พฤษภา เข้าคูหา กาก้าวไกล 31 ก้าวไกล 31 สองใบ 31 ต้องก้าวไกล วิโรจน์ก้าวไกล เป็นผู้ว่าอบต.~

อสอง เป็นเกมที่เหมาะสำหรับพวกเบียวแนวคิดทางการเมืองมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่น Kaiserredux หรือ TNO ใน HOI4 น่าจะถูกใจ คิดดูถ้าเอาระบบเบอร์กันดีมาใช้ในเกมนี้ผลจะเป็นแบบไหน (IS THAT TNO REFERENCE!?!?!)

เกมเลี้ยงลูก ไม่พูดเยอะ สนุกครับท่าน จากใจนักศึกษาวิชาทหารปี 3 ที่จบแล้ว

บอกไว้ก่อน ผมเล่นจบแค่โหมดเนื้อเรื่อง ฉะนั้นจะรีวิวแค่ส่วนนี้เท่านั้น

COD ภาคนี้เป็นภาคที่ผมชอบ Gunplay ของมันมาก เทคโนโลยีปืนแม่งอย่างเท่ ยิงมัน สนุก สะใจจริง ๆ รวมถึงการนำเสนอมุมมองการขับยานขับไล่ Dogfight กันกลางอวกาศโดยมียาน Capital ship อยู่รอบ ๆ มันรู้สึกเหมือนตอนเอากองยานมาสู้กันใน Stellaris แต่เสนอในมุมมองของทหารคนหนึ่ง และให้ความรู้สึกเหมือนขับเครื่องบินใน Ace Combat ปน ๆ กับขับยานใน No Man's Sky มานิด ๆ ซึ่งถุ๊กจัยผมอย่างมาก อีกอย่างคือตัวละครหุ่นยนต์อีธานที่ผมชอบและคิดว่าเป็นตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในภาคนี้ละ และนั้นก็คือทั้งหมดที่ผมชอบในภาคนี้

ต่อมาด้านที่ผมไม่ชอบและผิดหวังม๊ากกกกคือเนื้อเรื่องกับการดีไซน์ภารกิจ เนื้อเรื่องภาคนี้สอบตกไม่ผ่านมาตรฐานเนื้อเรื่องแบบ COD ด้วยซ้ำ เนื้อเรื่องแม่งเดินเร็ว จบอย่างไว ไม่ปะติดปะต่อ และที่สำคัญคือไม่อิน ด้วยความที่ภาคนี้เอาระบบเลือกภารกิจรองตามใจฉันก่อนที่จะเดินภารกิจหลักได้ ทำให้ความต่อเนื่องของเนื้อเรื่องมันหายไป ตัวละครที่(น่าจะ)สำคัญบางตัวโผล่มาแค่ภารกิจหลักแล้วก็ซี้ม่องตุย อาไรอะ จู่ๆเมิงก้อเท่ง รมบ่จอย ตัวร้ายก็อะไรก็บ่ฮู้ โผล่มาอยู่แปปเดียว ไร้เสน่ห์เหมือนตัวร้ายภาคอื่น ต่อมาด้านการดีไซน์ภารกิจ ซ้ำซากมาก ภารกิจทั้งเกมส่วนใหญ่ก็มีขับยาน Dogfight ไปบุกเข้า Capital ship ศัตรู ยิงๆๆ แล้วก็ขับยาน Dogfight หนี ส่วนการออกแบบด่านก็นะ ส่วนใหญ่ก็อวกาศ(ก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ) แต่ผมก็เฉย ๆ กับเรื่องนี้ ไม่ว่า ๆ

สรุป ถ้าเกมนี้มันไม่มีชื่อ COD ติดไว้จะถือว่าเป็นเกมที่ผมเล่นแล้วรู้สึกดีขนาด แต่ในเมื่อมันเป็น COD ก็ต้องยอมรับว่าผิดหวังมากกับเนื้อเรื่องที่เป็นตัวชูโรงของซีรีส์นี้อยู่แล้ว ส่วนถ้าใครไม่พรือเรื่องนี้กะจะยิงอย่างเดียวก็น่าจะเล่นได้เพลิน ๆ เลย


-นายธีอาน บ้านอสมบูรณ์, อบต. หมู่ 141 รายงาน

เป็นหนึ่งในเกมหงี่ที่เล่นเพลินมาก เสียดายตอนนี้คอนเทนต์ยังน้อยไปหน่อย เล่นประมาณ 10 กว่าชม.ก็จบแล้ว

ระบบควบคุมห่วยแตกมาก แต่น้องน่ารักครับผม ครับผม