Atelier Sophie 2: The Alchemist of the Mysterious Dream พัฒนาโดย Gust เจ้าของซีรีส์ Atelier (อาเทอลีเย่) หรือ “ซีรีส์แม่สาวน้อยปรุงยา” ที่เรารู้จักกัน โดยภาคนี้เป็นเกมลำดับที่ 23 ของซีรีส์ และเกมลำดับที่ 4 ของ Mysterious Subseries ที่เป็นภาคต่อของ Atelier Sophie โดยตรง

เรื่องราวในภาคนี้จะเกิดขึ้นก่อนภาค Firis หลังจากที่ Sophie และ Plactha ตัดสินใจเดินทางไปสู่เมืองหลวง เพื่อไปสมัครสอบขึ้นเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ ในระหว่างการเดินทางไปนั้น ทั้ง 2 ได้ถูกพลังลึกลับดูดไปยังต่างโลก “ดินแดนแห่งความฝัน” หลังจาก Sophie ตื่นขึ้น กลับพบว่า Plactha ผู้ที่เป็นเหมือนอาจารย์และเพื่อนของเธอได้หายตัวไป การผจญภัยตามหาเพื่อนและปกป้องโลกแห่งความฝัน ณ อิเซไค(ดินแดนต่างโลก)แห่งนี้ จึงได้เริ่มต้นขึ้น

อย่างที่กล่าวในทีแรก ภาคนี้เป็นการหยิบนำ Subseries Mysterious (ดินแดนพิศวง) มาสานเรื่องราวต่อ ระบบการเล่นส่วนใหญ่เลยอิงจาก Subseries นี้ทั้งหมด ส่งผลให้เกมเพลย์ของภาคนี้กลับมาเป็นรูปแบบของ Turn-Based RPG เต็มตัว ผลักกันตี ผลักกันออกอาวุธ เอ้ย..ออกไอเทมใส่มอน และอยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าเดิม ไม่ต้องนั่งลำดับเทิร์นจนปวดขมับแบบ Sophie ภาคแรก เป็นการกดคอมมานด์ตรงๆ เหมือนเกมเทิร์นเบสทั่วไป เลยว่าต้องการที่จะ โจมตี, ใช้ไอเทม, ตั้งการ์ดป้องกัน หรือ ใช้งานระบบตัวละคร Support

ระบบตัวละคร Support (ตัวละครแนวหลัง) ที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่นมาก จำเป็นต้องใช้แต้ม TP (Tactical Point) ที่ได้รับจากการทำดาเมจที่ศัตรูแพ้ทางหรือโยนดีบัพใส่ศัตรู ระบบ Support นี้สามารถใช้งานทั้งได้เรียกออกมา “โจมตี” ที่เรียกว่า Twin Action เป็นการเรียกตัวละครแนวหลัง 1 ตัวมาเพื่อโจมตีด้วยสกิลหรือใช้ไอเทมโดยที่ไม่ต้องรอเทิร์นต่อไป อารมณ์แบบกด 1 ได้ถึง 2 หรือจะใช้ TP เพื่อเรียกอีก 1 ตัวละครออกมาเพื่อ “ตั้งการ์ด” รับดาเมจในเทิร์นที่ศัตรูโจมตีก็ได้

อีกทั้งระบบการต่อสู้ในภาคนี้ ศัตรูจะมีการบอกจุดอ่อนที่แพ้ทาง ทั้งธาตุ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) และประเภทการโจมตี (กายภาพ หรือ เวทย์มนต์) อย่างชัดเจน รวมไปถึงเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ของบอส เช่น ใช้ไอเทมแล้วศัตรูจะเร่งเทิร์นตัวเอง อะไรเทือกนั้น ภาคนี้ไม่มีอะไรที่เกรียนแบบนั้น สบายใจได้ แต่เปลี่ยนเป็นต้องโจมตีหรือยัดดีบัพให้ศัตรูเข้าสถานะเกราะแตกแทน หลังจากเกราะแตกแล้ว ศัตรูเป้าหมายจะโดนดาเมจแรงขึ้นมากๆ สามารถยัดดาเมจหนักๆ จากไอเทมหรือสกิลใส่ได้เลย

เมื่อพูดถึงอาเทอลีเย่ เราจะไม่พูดถึงระบบปรุงยาหรือระบบที่เรียกว่า Synthesis ไม่ได้ แทบจะเป็นระบบเสาหลักของเกมนี้ โดยระบบปรุงยานี้จะมีมินิเกมที่มีลักษณะเหมือนเกม Tertis ให้เราทำการเรียงบล๊อกแต่ละสี เพื่อเลือกเอฟเฟคของไอเทม จากนั้นก็ทำการเลือก Trait (คุณลักษณะ) ที่เหมือนเป็นการใส่สกิลเสริมให้ไอเทม โดย Trait หรือ สกิลเสริม เหล่านี้ จะมาจากวัตถุดิบที่เรานำมาสร้างไอเทม ฉะนั้นการฟาร์มไอเทมวัตถุดิบ ถือว่าค่อนข้างสำคัญมาก หากต้องการที่จะเอาชนะการต่อสู้ที่ยากๆ เราจำเป็นต้องมีไอเทมที่เหมาะกับไฟท์นั้น

เมื่อพูดถึงการเก็บวัตุดิบ ผมเกือบลืมที่จะพูดถึงส่วนนี้ นั่นก็คือ “ระบบการเปลี่ยนสภาพอากาศ” ในภาคนี้ เราอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน ทำให้เรามีความสามารถในการใช้พลังเล่นแร่แปรธาตุในการเปลี่ยนสภาพดินฟ้าอากาศ โดยการเปลี่ยนสภาพอากาศมีผลทำให้วัตุดิบและศัตรูในแมพเปลี่ยนไป รวมไปถึงเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ๆ ให้เราเข้าถึงได้ เท่านั้นไม่พอในบอสไฟท์บางช่วงเราสามารถเปลี่ยนสภาพอากาศเพื่อเอาบัพพิเศษของบอสออกไปได้ด้วย

ประสิทธิภาพของตัวเกมของภาคนี้ ถือว่าทำมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีทั้งการรองรับความละเอียดระดับ 4K รองรับการบังคับด้วยคีย์บอร์ด-เมาส์ เต็มรูปแบบ และออฟชั่นปรับกราฟฟิกอย่างที่เกม PC ยุคนี้ควรมี แต่สำหรับเครื่องที่สเปคในระดับต่ำถึงปานกลาง จะมีปัญหาเฟรมตกหรือเกมกระตุกในบางแมพ โดยปัญหานี้ส่วนใหญ่สามารถแก้ได้จากการถอด Controller เข้าออกบ่อยๆ จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง เพราะเหมือนว่าระบบหาคอนโทรลเลอร์ของเกมมันยังทำงานค้างอยู่ ทั้งๆ ที่เกมหาตัวจอยเจอแล้ว

Atelier Sophie 2: The Alchemist of the Mysterious Dream เหมือนเป็นอีก 1 ก้าว ที่สานต่อ จากความสำเร็จของ Ryza ทั้ง 2 ภาค ถึงแม้จะกลับสู่รากเหง้าเดิม(ไม่ 100%) แต่ก็เป็นรากเหง้าที่เอาใจ ทั้งผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่ และมั่นใจได้ว่าซีรีส์ Atelier จากนี้ไป ยังคงมัดใจผู้เล่นได้ทั้ง 2 ฝ่ายแบบนี้ต่อไปอย่างแน่นอน

-------------------

+ เกมเพลย์ที่ลื่นไหล รวมไปถึงการตัดฉากสู้และตัดกลับมาฉากสำรวจที่(เกือบ)เนียน

+ ประสิทธิภาพของตัวเกมที่ดีเยี่ยม และมีฟังก์ชั่นอย่างที่เกม PC ยุคนี้ควรมี

+ การผจญภัยที่สนุก อบอุ่นหัวใจ และระบบปรุงยาที่เพลินจัด ดูดเวลาได้ตั้งแต่เช้ายันเย็นแบบไม่รู้ตัว

- คอนเท้นต์ที่มีให้เล่น ณ ตอนนี้ ถือว่าน้อยมากๆ มีเพียงแค่เกมหลัก กับ โหมด Boss Rush ที่เพิ่มมาภายหลังจากจบเกม ทำให้ราคาหลัก 2 พัน ไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่

★★★ 1/2